นักการเมืองกับนโยบายแจกแถม
ธาตุแท้นักการเมืองไทย
แต่ไหนแต่ไรมาเวลานักการเมือง พูดถึงแนวทางไม่ว่าจะหาเสียงหรือใช้กำหนดนโยบาย สิ่งที่ได้ยินไม่เคยพ้นคำว่าเพื่อประโยชน์ของประชาชนหรือไม่ก็คำนึงถึงทุกข์สุขประชาชนเป็นที่ตั้ง แต่ทุกครั้งการแสดงออกกลับฟ้องว่ามันตรงข้ามไม่ว่านโยบายที่กำหนดออกมานอกจากไม่เคยคิดถึงชาติหรือประชาชนเลยแม้แต่สักครั้ง คิดกันแต่จะชนะเลือกตั้งได้อย่างไรเวลากำหนดนโยบายออกมาจึงมีแต่ลดแลกแจกแถมโดยไม่คำนึงถึงว่าใช้ประโยชน์ได้จริงหรือเปล่า แล้วงบประมาณเหล่านั้นมันคือเงินที่ผู้เสียภาษีเป็นผู้จ่ายให้มาสิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นมุมมองนักการเมืองของไทยไม่ว่าพรรคไหนไม่เคยแตกต่างกันเลยเข้าตำราจริงๆว่า สันดอนขุดง่ายแต่สันดานขุดยังไงก็ไม่หมด
สดๆร้อนๆเมื่อวานนี้เองรัฐบาลเก่า ที่กำลังจะพ้นสภาพได้แก้ไขวิธีในการแจกเงินให้รัดกุมยิ่งขึ้น โดยเริ่มคิดที่จะแจกให้แก่คนที่อยู่ในสภาพไม่ไหวจริงๆเท่านั้น เรื่องนี้ก็เหมือนกับยอมรับว่าที่ผ่านมานั้นคือความผิดพลาดที่แจกเงินสะเปะสะปะไม่รู้เรื่องเหมือนที่เคยทักท้วงมาไม่รู้กี่ครั้ง เคยพูดเสมอว่าเงินของประชาชนถ้าเอาไปใช้แล้วมันเกิดประโยชน์กับประชาชนที่เดือดร้อนจริงๆมันก็เหมือนกับช่วยเอาเงินภาษีไปทำบุญให้ถูกที่ถูกทาง แต่ถ้าแจกโดยที่ไม่รู้ค่าสะเปะสะปะแจกเพื่อหาเสียงเอาใจชาวบ้านเท่านั้นโดยไม่สนใจถึงเรื่องเงินที่แจกไปเป็นเงินคงคลังของประเทศควรใช้อย่างมีคุณค่าแบบไหน ถ้ารัฐบาลใหนเอาเงินหลวงไปถลุงซี้ซั้ว นั่นคือรัฐบาลที่คิดได้แค่ทำลายชาติไม่ใช่เพื่อประโยชน์ชาติ ประชาชนควรเข้าใจเอาไว้ให้ดีตั้งแต่หลายปีก่อนผมก็ทักท้วงเรื่องนี้มาโดยตลอดว่า ทำไมการแจกเงินจึงไม่ทำให้รอบคอบนึกอยากแจกก็แจก นอกจากนั้นแล้ววิธีนี้ยังเป็นการประจานตัวเองให้ต่างชาติไปตีความว่าประเทศเรามีคนจนถึงครึ่งประเทศ
เคยทักท้วงไปว่าคนที่ไม่ทำมาหากินทั้งๆที่มีร่างกายสมบูรณ์คนพวกนี้ต้องเลิกแจกเด็ดขาด คนที่เสพแต่ยาแบบพวกขี้เหล้าเมายาต้องไม่แจกเด็ดขาด พวกนี้ไม่ทำงานทำการแล้วไปก่อความวุ่นวายให้เดือดร้อนคนอื่นนอกจากไม่แจกแล้วยังต้องลงโทษขั้นเด็ดขาดซะด้วย แต่ที่ผ่านมากลับไปตีความว่าคนพวกนี้ก็เป็นคนยากจนแล้วก็ไปแจกให้มันคือการทำร้ายชาติของเราให้หนักหนาสาหัสเข้าไปเรื่อยๆ เรื่องเบี้ยคนชราบอกว่าอายุครบวัยเกษียณ ต้องแจกถามว่าถ้าแจกให้กับคนที่ไม่มีเงินเป็นคนยากไร้จริง ก็สมควรเอาเงินภาษีไปใช้เพราะมันจะเกิดประโยชน์กับคนที่เขาไม่มีที่พึ่งพาจริงๆ แต่ข้าราชการบำนาญที่มีบำนาญกินกับคนที่เขาเคยทำงานเงินเดือนสูงๆมีเงินเก็บเยอะๆทำไมต้องไปแจกเขา ทำยังกับว่าคนพอถึงอายุ 60 ต้องจนกันทุกคนเคยมีคนมาบอกกับผมว่าทำไมไม่ไปรับเงินผู้สูงอายุผมบอกเขาไปว่าไอ้เงินเหล่านั้นมันคือเงินภาษีที่ข้าจ่ายไป แล้วข้ายังจะไปรับมันมาเพื่ออะไร บอกได้เลยในชีวิตไม่เคยรับอะไรทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นเบี้ยอะไรสักสลึงแม้แต่เวลาไปรับตำแหน่งอะไรในส่วนราชการกระทั่งเบี้ยประชุมก็ทำเรื่องคืนให้ทั้งหมดไม่รับแม้แต่แดงเดียวเพราะไม่ต้องการให้ใครมาตำหนิเอาได้ว่าไม่ได้ตั้งใจเข้ามาช่วยจริง รัฐบาลควรสร้างแนวคิดที่ถูกที่ควรให้ทุกคนเป็นหลักยึดเหนี่ยว ไม่ใช่ไปสร้างบรรทัดฐานผิดๆแล้วให้คนส่วนใหญ่เอาไปเป็นแบบอย่าง ถ้าเป็นแบบนั้นเขาเรียกหาประโยชน์อะไรไม่ได้ ต้องเข้าใจว่าการแจกเงินกับการให้ยืมเงินมันไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่ เวลาให้ก็คือดีเวลาไม่ให้จะกลายเป็นชั่วทันที ยิ่งอะไรถ้าได้มาง่ายมันก็ยิ่งไม่มีราคาแต่ถ้าเอาหยาดเหงื่อและความลำบากไปแลกมาค่าของมันจะสูงขึ้นทันทีนี่คือกฎเกณฑ์ปกติของมนุษย์
ที่ผ่านมาผลพวงที่เห็นง่ายสุดคือยุคหลังนี้ รัฐบาลแจกทุกอย่างให้ประชาชนไปง่ายๆพอเวลาไม่แจกมันง่อยเปลี้ยเสียขาไปทั้งประเทศแถมยังด่าว่าต่างๆนานา ไอ้ที่หวังว่าจะมาเป็นฐานเสียงให้ ก็ไม่ได้ดั่งใจแถมยังโดนด่าอีกต่างหากนี่คือธรรมชาติของมนุษย์ ถึงแม้รัฐบาลชุดเก่าจะทำผิดมาตลอดอายุที่เป็นแต่มาสำนึกได้ในวาระสุดท้ายแล้วเริ่มตั้งกฎเกณฑ์ใหม่ก็ยังดีกว่าการไม่คิดแก้ไข ถ้าเป็นฤดูหาเสียงคงถูกถล่มยับเยินแน่นอน มันจะออกมาในรูปแบบว่าถังแตกไม่มีปัญญาจ่ายเพราะบริหารไม่ดี แต่ท่านว่ามันแปลกพิสดารไหมพอรัฐบาลเก่าออกมาลดการแจกลงฝ่ายที่จะเป็นรัฐบาลใหม่กลับด่าซะอีกว่ามาแกล้งกันนี่ พอถึงเวลาเขาจะแจกบ้างก็มาปรับกฎเกณฑ์เพื่อไม่ให้เขาสามารถแจกได้ทุกคน เออหนอมันช่างคิดได้วิเศษกันจริงๆนะพวกนักการเมืองไทย สุดท้ายมันเข้าทำนองชัดเจนว่า อย่าได้หวังว่าประเทศนี้จะมีนักการเมืองคนไหนที่คิดถึงประชาชน พวกนี้เวลาอยู่ฝั่งหนึ่งที่ไม่ได้ประโยชน์ก็เอามาโจมตีกันทุกเรื่อง แต่พอตัวเองจะทำบ้างเรื่องไม่ถูกกลายเป็นถูกไปหมด สุดท้ายคนที่รับกรรมก็คือผู้ที่เป็นเจ้าของประเทศที่แท้จริงคือคนที่ชำระภาษีให้กับประเทศนี้ ต้องถูกเอาเปรียบมากขึ้นคือถูกรีดภาษีมากขึ้น จนผู้ประกอบการในขณะนี้ส่วนใหญ่แทบจะเอาตัวไม่รอด แล้วนักการเมืองก็ฉวยโอกาสไปบอกว่าเพราะเศรษฐกิจไม่ดีเพื่อโจมตีคู่ต่อสู้ ผู้ประกอบการจะอยู่รอดหรือไม่รอดพวกนักการเมืองไม่เคยสนใจ ทั้งๆที่พวกนี้คือน้ำเลี้ยงที่หล่อเลี้ยงตัวจริงของประเทศนี้
ทำไมนักการเมืองไม่คิดเปลี่ยนนิสัยชาวบ้านที่ไม่ทำมาหากินแล้วคอยนั่งแบมือขอความช่วยเหลือเอาเปรียบคนอื่น ทำไมไม่ทำให้เขารู้ว่าอาชีพในประเทศนี้มีออกเยอะแยะมานั่งคอยแบมือขอมันน่ารังเกียจ คนที่ไม่ทำมาหากินก็เหมือนตัวเห็บหมัดที่คอยเกาะสูบเลือดสูบเนื้อกับชีวิตคนส่วนใหญ่ที่เขาทำมาหากินด้วยความลำบาก เมื่อไหร่นักการเมืองจะเปลี่ยนพฤติกรรมสอนให้ผู้คนรู้จักเคารพความถูกต้องกันบ้าง แล้วก็เลิกซะทีเถอะไอ้ที่ใช้ทุกวิถีทางเพื่อหาประโยชน์ใส่ตัว มันก็คือวิถีแห่งความเลวทรามที่ควรเลิกได้แล้ว ประเทศของเราไม่ควรจะมีพวกหลงผิดที่เอาแต่บอกว่าข้าเป็นเจ้าของประเทศข้าเป็นผู้เสียภาษีทั้งๆที่ยังไม่มีงานทำ แล้วก็หัวฟัดหัวเหวี่ยงทวงนู่นทวงหนี้ แถมยังเที่ยวทุบทำลายสมบัติชาติไปทั่วทำไมนักการเมืองไม่แก้กฎหมายที่หย่อนยานให้เข้มงวด จะได้เอามาปราบปรามคนพวกนี้ให้สิ้นเชื้อ แต่กลับคิดยกเลิกกฎหมายที่เขียนมาเพื่อปราบโกง แค่นี้ก็เห็นได้ว่ามันมีอะไรที่แอบแฝงอยู่เลิกทำร้ายประเทศกันเสียทีประเทศเราจะได้เดินไปข้างหน้าอย่างสง่าผ่าเผยไม่ต้องอับอายชาวโลกเขา จะได้หลุดจากกับดักชาติที่มีการคอรัปชั่นอยู่ในลำดับต้นๆเสียที