พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐ์พงษ์ รอง ผบช.ภ.2 สนธิกำลังตำรวจสืบสวน สภ.หนองปรือ ,ตม.ชลบุรี ตำรวจท่องเที่ยวพัทยา ,สืบสวนภาค 2 ,ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อจำลองเหตุการณ์ที่ นายเฉียน เป็ง ยี่ ( Mr.Qian Peng yi ) ผู้เสียหายชาวจีนถูกปล้นด้วยคนชาติเดียวกัน
รอง.ผบช.ภ.2 นำทีมไขคดี จีนปล้นจีน พาเหยื่อจำลองเหตุการณ์ นาทีปืนจี้ – มัดมือมัดเท้าจนเป็นรอยแผล รีดเงิน 10 ล้าน สอบพบน้องสาวร่วมทีมปล้นพี่ชาย
จากกรณีเกิดเหตุ กลุ่มคนร้ายชาวจีน บุกปล้นบ้าน นายเฉียน เป็ง ยี่ ( Mr.Qian Peng yi ) อายุ 34 ปี นักธุรกิจชาวจีน ปืนจ่อจับมัดมือมัดเท้า ขู่บังคับโอนเงิน 10 ล้านบาท พร้อมลักพาตัว นางสาวตู่ เป่ยจือ ( Miss Tu Peizhi ) อายุ 33 ปี ลูกพี่ลูกน้องชาวจีนหนีหลบหนีออกไปพร้อมกัน เหตุเกิดที่ เหตุเกิดบ้านเลขที่ 24 / 88 หมู่ 6 ของหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซอยลับแล ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งหลังจากหนุ่มนักธุรกิจชาวจีนหลบหนีออกมาได้สำเร็จ ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองปรือ ซึ่งภายหลังเจ้าหน้าที่พบข้อสงสัยเชื่อว่า นางสาวตู่ เป่ยจือ ลูกพี่ลูกน้องอาจจะเป็นนกตกเปิดทางให้ 3 คนร้ายบุกปล้น ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 18 ก.ค.67 พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐ์พงษ์ รอง ผบช.ภ.2 นำกำลังทีมตำรวจสืบสวน สภ.หนองปรือ , ตำรวจ ตม.ชลบุรี ตำรวจท่องเที่ยวพัทยา , ตำรวจสืบสวนภาค 2 , ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อให้ นายเฉียน เป็ง ยี่ ( Mr.Qian Peng yi ) ผู้เสียหายชาวจีน เปิดบ้านพาเจ้าหน้าที่เดินชี้จุด และจำลองเหตุการณ์อีกครั้ง ตั้งแต่ นาทีถูกปืนจี้ จับมัดมือเท้า ใช้ผ้าอุดปากผ้าเทป พันรอบศีรษะ รวมถึงนาทีหนีตายไปขอความช่วยเหลือจากคนไว้ใจ
พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐ์พงษ์ รอง ผบช.ภ.2 เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้ลงพื้นที่เก็บรายละเอียดที่เกิดเหตุอีกรอบ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังไล่กล้องวงจรปิดเพื่อติดตามเส้นทางของคนร้าย เจ้าหน้าที่มีเบาะแสข้อมูลบ้างแล้ว ส่วนสาเหตุในครั้งนี้ กลุ่มคนร้ายประสงค์ต่อทรัพย์ โดยทรัพย์สินที่ได้ไป มีโทรศัพท์ , ไอแพด , คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค , และ ซีพียูคอมพิวเตอร์ 3 เครื่อง ส่วนเรื่องจำนวนที่มีการกล่าวอ้างว่าบังคับโอนเงินนั้น จากปากคำผู้เสียหาย ยืนยันแล้วว่าเงินยังไม่ถูกโอนออกไป
สำหรับข้อมูลภายใน คอมพิวเตอร์ที่ถูกคนร้ายเอาไปด้วยนั้น ผู้เสียหายไม่เปิดเผยรายละเอียด ขณะที่ตำรวจกำลังตั้งข้อสงสัย ข้อมูลในฮาร์ทดิส มีความเชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่ เพราะผู้เสียหายพยายามปกปิดข้อมูลบางอย่าง ซึ่งตำรวจอยู่ในระหว่างทำการสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง
นอกจากนี้ กลุ่มคนร้ายมีการวางแผนมาเป็นอย่างดี ทำกันเป็นขบวนการ โดยมีคนในบ้านคอยส่งสัญญาณบอกคนร้าย ทำลายระบบภาพวงจรปิดเพื่อไม่ให้มีหลักฐาน รวมถึงมีการมาดูลาดเลาก่อนลงมือก่อเหตุ ส่วนเรื่องน้องสาว ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับผู้เสียหาย จากการสืบสวนเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการปล้นในครั้งนี้อย่างแน่นอน ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุ ชายขาวจีน ทั้ง 3 คน ในเบื้องต้น พบว่าออกจากพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 2 ไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตามตำรวจจะได้ทำการสืบสวนสอบสวนและเร่งติดตามกลุ่มคนจีนรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป…