จริงหรือไม่…!!
เมื่อหลายวันก่อนเขาปิดกันให้แซดไปหมดว่า มีข้าราชการการเมืองท้องถิ่นแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอบางละมุงชลบุรี มีพฤติกรรม ซื้อประเวณี สาวต่างชาติลาว ที่มีสามีเป็นกัมพูชา
จริงๆแล้วการมีเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปกติของเมืองนี้(เขาว่าอย่างนั้นน่ะ)แต่ที่มันไม่ธรรมดาเพราะคนซื้อเป็นนักการเมืองท้องถิ่น จึงมีกระแสร์ข่าวออกมาหนาหูมาก
เนื่องจากสามีของผู้หญิงที่เป็นกัมพูชาไปแจ้งความเอาผิดกับนักการเมืองคนนั้น ที่ สภ.แห่งหนึ่ง
เรื่องอย่างนี้ถ้าเอามาเป็นประเด็นข่าวเขียนกันได้ทุกนาทีทุกเวลา แต่นี่มันเป็นนักการเมืองเป็นคนสาธารณะเป็นคนของประชาชน มันจึงเป็นข่าว
เขาถึงบอกว่าข่าวอยู่ที่ตัวบุคคล
เรามีหน้าที่ติดตามความจริงมาพูดมาบอกให้สังคมได้รับรู้ต้องเข้ามาเป็นผู้ค้นหาความจริง
ประวัติศาสตร์ของอาชีพโสเภณีในไทยจะพบว่า สมัยกรุงศรีอยุธยา ในสมัยที่ยังมีระบบเจ้าขุนมูลนายเข้มข้น และมีการยึดอำนาจจากหัวเมืองประเทศราช ก่อนที่จะมาบูมขึ้นอีกครั้งในช่วงที่ยายแฟง เศรษฐินีในย่านสำเพ็งรับซื้อหญิงสาวที่ยากจนหรือสมัครใจมาขายบริการ ให้มาทำงานในสถานที่ที่มีการติดกระจกสีเขียวด้านหน้าตึกเกิดเป็น ‘โคมเขียวแห่งสำเพ็ง’
กระทั่งในปี 2503 ภายใต้รัฐบาลเผด็จการทหาร พล.อ.สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้มีการออก พ.ร.บ.ปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2503 ทำให้การค้าประเวณีกลายเป็นความผิดทางกฎหมายอย่างสมบูรณ์ ก่อนที่จะมีการสังคายนากฎหมายในอีก 36 ปีต่อมา เกิดใหม่กลายร่างเป็น พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 หรือกล่าวได้ว่า สถานการณ์ของการค้าประเวณีของไทยยังอยู่ในระดับที่ ‘ผิดกฎหมาย ’ คือ มีโทษทางอาญาแก่ผู้ซื้อ ผู้ขาย และเจ้าของสถานบริการ ในขณะที่วันนี้ที่การค้าประเวณียุคนิจิตอลโลกแห่งโซเชียล ขายง่ายติดต่อง่าย ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย มีขายหมด บาร์หญิง(ทอม) บาร์ชาย(โฮส) มีทั่วเมือง ทำกันอิสระเสรี
บางส่วนเครดิตคุณสุทธิพัทธ์