วันศุกร์, พฤศจิกายน 8, 2024
ข่าวอาชญากรรม

ระทึกกลางเมืองพัทยา!! ตำรวจล้อมจับหนุ่มเมืองโอ่งหัวร้อนควงปืนข่มขู่วิน จยย. รับจ้าง ตำรวจเกลี่ยกล่อมนานร่วม 4 ชั่วโมง แถมใจเย็นขอเบียร์จิบย้อมใจ สุดท้ายตำรวจเจรจาไม่สำเร็จลั่นไกระเบิดสมองตัวเองดับต่อหน้า ผู้กำกับการ สภ.เมืองพัทยา(มีคลิป)

เมื่อเวลา 20.00 น. ( 28 ก.ย.67 ) พ.ต.ท.ฐานานนท์ อธิพันสีห์ รอง ผกก.(สืบสวน) สภ.เมืองพัทยา นำกำลังตำรวจชุดสืบสวนกว่า 20 นาย เข้าทำการปิดล้อม ลานจอดรถย่านสถานบันเทิง ลานเอ็กซ์ไซต์ ถนนพัทยากลางสายสาม หมู่ 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังพบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า ยาริส สีบรอนซ์ ทะเบียน 8กฏ6242 กทม. ซึ่งเป็นรถเก๋งต้องสงสัย ก่อเหตุใช้อาวุธปืนข่มขู่วินรถจักรยานยนต์รับจ้าง เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมา ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกำลังจะแสดงตัวเข้าตรวจค้น คนขับรถเก๋ง ซึ่งเป็นชายไทย ได้เปิดประตู แล้ววิ่งหนีเข้าไปในลานจอดรถ ตำรวจจึงกระจายกำลังปิดล้อม นานเกือบ 1 ชั่วโมง แต่ก็ยังไม่พบตัว

 สืบเนื่องมาจากเมื่อช่วงเวลาประมาณ 04.47 น. ของเช้าวันที่ 28 กันยายน นายปฏิพล ประไพรัตน์ หรือโฟล์ค อายุ 20 ปี อาชีพขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ประจำวินหน้าลานเอ็กซ์ไซต์ ได้ถูกชายไทย อายุประมาณ 30-35 ปี ขับรถเก๋ง สีบรอนซ์ มาจอดใกล้กับวิน นายปฏิพล วิน จยย.รับจ้าง เข้าใจว่า เป็นนักท่องเที่ยวจะสอบถามทาง จะเดินเข้าข้างรถ แต่ปรากฏว่าชายคนขับได้ลดกระจกลง แล้วพูดตะโกนสวนกลับมาว่า  “ มึงมีปัญหาอะไรกับกู ข้องใจหรือเปล่า” พร้อมกับชักอาวุธปืนสั้น ออกมาข่มขู่ ทำให้นายปฏิพล เห็นท่าไม่ดี จึงเดินหนี แต่ชายดังกล่าว ได้เปิดประตูรถแล้วเดินตามมาเอาเรื่องอีก พร้อมกับถืออาวุธปืนมาด้วย จากนั้นมีผู้หญิงที่นั่งมาในรถ ได้เปิดประตูลงมาห้าม ก่อนชายดังกล่าวจะเดินกลับขึ้นรถแล้วขับรถออกไป

ซึ่งนายปฏิพล ยังเล่าต่ออีกว่า ชายที่ถืออาวุธปืนมาข่มขู่น่าจะทะเลาะกับแฟนสาวที่นั่งมาในรถ แล้วพาลหาเรื่องคนอื่น ส่วนตนเองหลังจากเกิดเรื่องจึงเข้าแจ้งความกับ ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา โดยกล้องวงจรปิดใกล้กับจุดเกิดเหตุ สามารถจับภาพนาทีเกิดเหตุได้อย่างชัดเจน จนกระทั่งช่วงค่ำในวันนี้ ตนเองเห็นรถคันที่ก่อเหตุกลับมาอีกครั้ง จึงเดินเข้าไปเพื่อพูดคุยและจะเคลียร์ปัญหา แต่ปรากฏว่าชายดังกล่าวได้ชักอาวุธปืนออกมาขู่อีกครั้ง จึงรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจมาทำการตรวจสอบ

ต่อมาเวลา 21.00 น. ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องกว่า 50 นาย เข้าตรึงกำลังปิดล้อม บริเวณจุดที่มีการพบรถเก๋งคันดังกล่าว จนพบคนขับ ทราบชื่อว่า นายนิรุตติ์ แย้มพวง อายุ 39 ปี พนักงานเสิร์ฟของสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง กำลังนั่งอยู่ในมุมมืด ในมือถืออาวุธปืนไว้ตลอดเวลา ตำรวจเกรงว่าประชาชนและนักท่องเที่ยวในย่านดังกล่าวจะไม่ปลอดภัย จึงมีการกันพื้นที่ในรัศมี 200 เมตร และ ห้ามผู้ใดเข้าใกล้บริเวณดังกล่าว พร้อมกับประสานชุดปฏิบัติการพิเศษ ภ.จว.ชลบุรี ( นปพ.ภ.จวชลบุรี ) เข้าร่วมตรึงกำลังในเหตุการณ์ในครั้งนี้ด้วย 

ในที่สุดเวลา 21.15 น. พ.ต.ท.ฐานานนท์ อธิพันสีห์ รอง ผกก.(สืบสวน) สภ.เมืองพัทยา เริ่มแผนเจรจาในเบื้องต้น  โดยมีการโทรศัพท์พูดคุยผ่านข้อความ เฟสบุ๊ค ของ นายนิรุตติ์ แย้มพวง ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับว่า “เป็นผู้ก่อเหตุใช้วุธปืนข่มขู่วินรถจักรยานยนต์รับจ้างจริง แต่ในเรื่องนี้ไม่ได้เครียด แต่ที่เครียด เพราะว่าตัวเองมีหมายจับคดีพยายามฆ่า ในพื้นที่จังหวัดราชบุรี เมื่อปี 57 และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ให้เข้ามาใกล้ เพราะจะยิงตัวตาย เพื่อหนีปัญหา ” นอกจากนี้  นายนิรุตติ์ แย้มพวง มีการขอเบียร์ 1 ขวด เพื่อดื่มย้อมใจ และมีการโพสต์ข้อความสั่งเสียลงในเฟสบุ๊ค ส่วนตัว ระบุว่า “ผมรักทุกคนนะครับ ผมสร้างมันขึ้นมาเอง ผมก็ต้องจบด้วยตัวเอง ไม่เอาใครมาเดือดร้อน นี่จะเป็นโพสสุดท้ายในชีวิตผม ไม่ต้อง โทรมากันนะครับ แบตจะหมด ผมจะไว้คุยกับแม่ รักทุกคนเด้อ” 

ต่อมาเวลา 22.25 น. พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา ตัดสินใจเดินเข้าไปเจรจา กับ นายนิรุตติ์ แย้มพวง โดยมีการเดินเข้าไปใกล้ ตัวนายนิรุตติ์ ในระยะไม่ถึง 5 เมตร นายนิรุตติ์ ได้มีการกระดกเบียร์ และ ในมือถืออาวุธปืนไว้ตลอด โดยท่านผู้กำกับ มีการเจรจา และพยายามพูดคุย ให้นายนิรุตติ์ ให้รู้สึกผ่อนคลาย โดยมีการพูดคุยนานถึง 20 นาที จน นายนิรุตติ์ เริ่มมีท่าทีที่อ่อนลง  และ ในระหว่างที่ พ.ต.อ.นาวิน ผกก. สภ.เมืองพัทยา หันหลังกลับชั่วพริบตาได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหันกลับดูพบว่านายนิรุตติ์ แย้มพวง ตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงตัวเอง 1 นัด จนล้มลงไปนอนกองกับพื้น ทีมตำรวจจึงรีบเข้าเคลียร์พื้นที่ พร้อมกับประสานเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล และ กู้ภัย เข้าทำการช่วยเหลือ โดยพบว่ากระสุนปืนยิงเข้าขมับขวา กระสุนฝังใน ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ก่อนจะถูกนำตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลเมืองพัทยา

ส่วนการตรวจสอบในที่เกิดเหตุเพิ่มเติมพบว่าอาวุธปืน ที่ใช้ในการก่อเหตุ เป็นอาวุธปืนแบลงค์กัน ดัดแปลงเป็นอาวุธปืนจริงขนาด .32 เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน 

ขณะที่ นายวันชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี รุ่นพี่ที่ร่วมงานกับผู้ก่อเหตุได้ให้ข้อมูลว่า ผู้ก่อเหตุนั้นไม่ได้มีเจตนาที่จะทำร้ายใครทั้งสิ้น เพียงแต่กลัวที่จะถูกจับดำเนินคดีเนื่องจากตนเองนั้นมีหมายจับ คดี ฆ่าผู้อื่นและพยายามฆ่าโดยมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครอง ประกอบกับทางร้านจะไล่ออก หลังจากมีปัญหากับกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ซึ่งเป็นวัยรุ่นเจ้าถิ่นแต่เกิดเคลียร์กันไม่ลงตัว จึงเกิดความเครียดรุมเร้า จึงพยายามจะก่อเหตุดังกล่าว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *