เอาคนที่ไม่มีความรู้ความสามารถกหรือ”เกาไม่ถูกที่คัน”มันจะเกิดอะไรขึ้นการบริหาร
ฝากข้อคิดถึงนายกรัฐมนตรีคนใหม่
เป็นครั้งแรกของคนไทยที่จะได้มือบริหารอาชีพที่ไม่เคยผ่านวิถีความเป็นนักการเมืองก่อนจะเข้ามาเป็นผู้นำของประเทศนี้ ไม่ว่าเส้นทางที่จะนำพาท่านมาสู่การเป็นผู้นำของประเทศนี้จะมาจากวิธีไหน แต่วันนี้ท่านก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศนี้แล้ว จึงอยากจะสะท้อนภาพให้เห็นในมุมมองที่แตกต่างกว่านักการเมืองทั่วไป นักการเมืองอาชีพมักจะรู้เรื่องมากมาย เพราะมีโอกาสลงพื้นที่ไปหาชาวบ้าน แต่การรับรู้เหล่านั้นไม่ค่อยได้เอามาใช้ให้เป็นประโยชน์มากนัก นั่นก็เพราะว่านักการเมืองส่วนใหญ่ ไม่ใช่นักบริหาร บางครั้งรู้ปัญหามากมายแต่ไม่รู้ว่าจะแก้อย่างไรผมรู้จักนักการเมืองมากมายแล้วก็รู้จักผู้นำประเทศหลายคน บางคนก็เป็นผู้นำที่ได้มาจากคนเป็นทหารอาชีพมาก่อน บางคนก็เป็นนักการเมืองเพียวๆ เพราะในชีวิตไม่เคยทำอาชีพอื่น ทุกครั้งที่คนเหล่านี้มีโอกาสได้มานั่งพูดคุยกัน เวลาพูดเรื่องอะไรที่เป็นปัญหาของชาวบ้านปัญหาของสังคมทุกคนตั้งใจฟังเป็นอย่างดี แล้วก็บอกว่ามุมมองที่สะท้อนมาให้นั้นไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อน แต่ก็ยอมรับว่าหลังจากฟังแล้วมีประโยชน์มากจะได้นำไปสู่การแก้ไข แต่ผ่านมาครั้งแล้วครั้งเล่าเรื่องที่บอกว่าน่าจะเกิดประโยชน์มากที่สุด กลับไม่เคยได้รับการแก้ไขเลยแม้แต่ครั้งเดียวก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะสาเหตุอะไร
ที่ผ่านมาก็ค่อยๆหมดความศรัทธาลงไปเรื่อยๆจนกระทั่งระยะหลังถึงขนาดต้องบอกว่าไม่เคยตั้งความหวังอีก แล้วก็ไม่คิดที่จะถ่ายทอดไปอีกเพราะรู้สึกว่าจะมีประโยชน์อะไรที่จะเสียเวลามานั่งคุยกันโดยเปล่าประโยชน์ มองว่านักการเมืองหรือพวกที่อยู่แวดวงเหล่านี้มักทำแต่เรื่องที่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องถ้าเป็นเรื่องที่เป็นปัญหาของชาวบ้าน โดยไม่สามารถหาประโยชน์อะไรได้ก็จะไม่เกิดโครงการต่างๆเพื่อนำไปสู่การแก้ไข แต่พออายุเรามากขึ้นมีประสบการณ์ด้านต่างๆมากขึ้น มุมมองก็เริ่มละเอียดและรอบคอบยิ่งขึ้น ทุกวันนี้ก็เลยคิดว่าหรืออาจจะเป็นเพราะคนเหล่านั้นไม่เคยผ่านความเป็นผู้บริหารมืออาชีพมาก่อนจึงไม่รู้วิธีที่จะแก้ไขจัดการให้มีประสิทธิภาพ จึงไม่สามารถทำเรื่องพวกนี้ให้เป็นความสำเร็จได้ ถึงแม้ได้รับข้อมูลไปพอนำเรื่องเหล่านี้ไปหารือกับฝ่ายต่างๆ สุดท้ายแทบจะทุกเรื่องก็จะหายสาบสูญไปโดยไม่มีการแก้ไข อาจจะเป็นคำตอบที่ฝ่ายราชการไม่สามารถหาทางรับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ คำตอบจึงออกมาในลักษณะว่าไม่มีเรื่องเช่นนี้หรือแม้แต่คณะรัฐมนตรีส่วนใหญ่ก็เป็นนักการเมือง จึงอาจจะมองว่าเรื่องที่ทำยากหน่อยคือเรื่องที่ทำไม่ได้ สุดท้ายไม่ว่าจะสะท้อนปัญหาออกไปดีแค่ไหนก็ไม่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขพอ จึงไม่สามารถนำไปสู่การแก้อะไรได้ แม่ในระยะหลังจะใช้วิธีการเขียนหนังสือบอกเล่าปัญหา แล้วใส่มุมมองการแก้ปัญหาไปด้วยปรากฏว่ามีหลายเรื่องที่รัฐบาลนำไปทำ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเพราะไม่ได้ลงในรายละเอียดอย่างเอาจริงเอาจังสุดท้ายปัญหาก็ยังไม่ได้แก้ไขอยู่ดี
ขณะที่กำลังเขียนบทความในตอนนี้อยู่ก็พอได้เห็นสภาพการฟอร์มคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่ดูเหมือนว่าใกล้จะลงตัว ก็เริ่มมองเห็นวี่แววว่าคงเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ได้คณะรัฐมนตรีที่มีความรู้ความสามารถ ในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพได้ เพราะมองว่าการเกลี่ยตำแหน่งมีหลายตำแหน่งที่เอาบุคลากรที่ดูเหมือนไม่เคยมีความรู้ตรงกับความสามารถมาบริหารตรงตำแหน่ง ถ้ารายชื่อตามที่ปรากฏอยู่ในขณะนี้ เราจะเห็นเลยว่านักการเมืองส่วนใหญ่ไม่ได้เคยสนใจที่จะรับผิดชอบต่อประเทศนี้มากเกินกว่าที่จะมองแค่มุมมองของคนในครอบครัว พวกนักการเมืองก็แค่ต้องการผลักดันคนในครอบครัวขึ้นมาแบ่งคิวสัมผัสกับอำนาจและตำแหน่งโดยไม่เคยสนใจว่า แต่ละพรรคจะต้องคัดเอาคนที่มีความสามารถตรงกับตำแหน่งเข้ามา เมื่อเป็นเช่นนี้ก็คงยากที่จะหวังได้ว่าจะได้รับการแก้ไข อย่างน้อยถ้าคนที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีพอมีความรู้ในเรื่องเหล่านั้นอยู่บ้าง พอเข้ามาสะท้อนปัญหาก็จะเข้าใจได้มากขึ้นแต่ถ้าหากไม่มี ความเข้าใจในเรื่องนั้นๆเลยแม้แต่น้อย ก็คงยากที่จะเข้าใจ ถึงปัญหาของแต่ละจุดแต่ละมุมที่จะสามารถนำไปสู่การแก้ไขได้ในฐานะที่เราจะได้ผู้นำคนใหม่ที่มาจากนักบริหารธุรกิจก็หวังว่าข้อเขียนวันนี้อาจจะได้สะท้อนมุมมองให้ท่านได้มีโอกาสพิจารณาดูให้รอบคอบเสียก่อน ถึงแม้ว่าท่านจะไม่มีฐานทางการเมือง แต่ก็ควรจะทราบว่าถ้าเอาคนที่ไม่มีความรู้ความสามารถตรงกับตำแหน่งมานั่งทำงานในความรับผิดชอบของท่าน มันจะเกิดอะไรขึ้นการบริหารจะราบรื่นได้จริงหรือ แล้วสุดท้ายประชาชนจะหวังอะไรได้ อย่างน้อยในฐานะที่จะเป็นนายกผู้ต้องทำหน้าที่ในการบริหารประเทศนี้ ควรให้ความสนใจกับมุมมองเหล่านี้บ้างไหม ต้องไม่ลืมว่าหลังจากแต่งตั้งไปแล้ว ถึงแม้จะได้คนที่ไม่เหมาะกับงานก็คงยากที่จะปรับเปลี่ยนกันได้อย่างรวดเร็วจึงควรแก้ไขไว้ก่อนหรือเปล่า
มองว่ากระทรวงศึกษาธิการตลอดจนถึงกระทรวงอุดมศึกษาอย่างน้อยที่สุด ควรมีรัฐมนตรีที่เข้าใจในเรื่องเหล่านี้โดยถ่องแท้หรือไม่ ไม่ใช่เอาใครก็ได้มานั่งเพราะนี่คืออนาคตของชาติไทย ในขณะที่กระทรวงที่จะต้องเป็นกระทรวงที่รับผิดชอบในเรื่องปากท้องของชาวบ้านก็ควรหาคนที่เข้าใจปัญหาของชาวบ้านอย่างแท้จริงหรือเปล่า กระทรวงที่จะต้องทำการค้าขายก็ควรจะมีนักการค้าเก่งๆมานั่งดูแลหน่อยดีไหม เขาจะได้รู้ว่าในตอนที่เขาทำการค้าอยู่ เขาเจอปัญหาอะไรบ้างจะได้นำไปสู่การแก้ไขให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อหาจุดเปลี่ยนโดยการนำเอาคนรู้จริงเข้ามา ก็ต้องฝากมุมมองเหล่านี้ไว้ให้กับคนที่จะเข้ามาบริหารประเทศ อย่าลืมว่าภาระหน้าที่ของท่านในตอนนี้ เมื่อได้รับการโปรดเกล้าให้เป็นนายกรัฐมนตรี ท่านคือผู้มีอำนาจเต็มในการที่จะมารับผิดชอบประเทศนี้ ท่านต้องลืมไปเลยว่าท่านมาจากอะไรจะด้วยวิธีการไหน เพราะวันนี้ท่านคือนายกรัฐมนตรีของประเทศนี้แล้ว ฝากข้อคิดเหล่านี้ให้ท่านไปพิจารณาด้วยครับ