เมืองพัทยา ตู้คีบตุ๊กตา “การพนัน” เคลือบภัยร้าย ใกล้ครอบครัว มีทุกที่ในห้างสรรพสินค้า สะดวกซื้อ แม้แต่ร้านอาหาร เจ้าหน้าที่ปล่อยปะละเลย ระวัง..! โดน 157 มันเกลื่อนเมืองแบบเหนือกฎหมาย
ตู้คีบตุ๊กตา “การพนัน” เกลื่อนอำเภอบางละมุง ทุกพื้นที่ ทุก สภ.ทั้งๆที่ผิดกฎหมาย
“ตู้คีบตุ๊กตา” ทรงสี่เหลี่ยม บรรจุตุ๊กตานานาชนิด สีสันสวยงาม รูปลักษณ์ทำให้น่าเข้าหา ดึงดูดสายตาผู้คนทุกช่วงวัย โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน กลายปัญหาที่อยู่นอกสายตาของผู้คนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะผู้ปกครองที่ไม่ฉุกคิด ว่า อาจเกิดอันตรายขึ้นกับลูกหลาน ในช่วงที่ต้องคีบตุ๊กตาหยอดเหรียญ 10 – 20 บาท
นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน กล่าว ในเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ภายใต้ชื่อ “ตู้เสี่ยงโชค เพื่อนใจดีหรือมีร้ายแฝง” ว่า ควรมีการตรวจสอบว่า ตู้คีบตุ๊กตาและตู้กาชาปอง
หรือตู้หยอดเหรียญเสี่ยงโชครับลูกบอลปริศนา ที่พบเห็นได้ทั่วไปทั้งในห้างสรรพสินค้า, แหล่งท่องเที่ยว,สวนสนุกฯ นั้นเป็นการจัดให้เล่นพนันหรือไม่?
“ตู้คีบสินค้า” ถูกจัดให้อยู่ใน พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 บัญชี ข. หมายเลข 28
ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 ในบัญชี ข. ลำดับที่ 28 เครื่องเล่นซึ่งใช้เครื่องกล พลังไฟฟ้า พลังแสงสว่าง หรือพลังอื่นใดที่ใช้เล่นโดยวิธีสัมผัส เลื่อน กด ดีด ดึง ยิง โยน โยก หมุน หรือวิธีอื่นใดซึ่งสามารถทำให้แพ้ชนะกันได้ ไม่ว่าจะโดยมีการนับแต้มหรือเครื่องหมายใด ๆ หรือไม่ก็ตาม
ด้วยข้อบัญญัติเหล่านี้ ทำให้ ตู้คีบตุ๊กตา ถูกจัดไว้ว่า เป็นการพนัน ดังนั้นเพื่อปกป้องเด็กและเยาวชนจากการพนันทุกรูปแบบ ภาครัฐควรตระหนักถึงเรื่องนี้โดยด่วน
เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน เสนอว่า ควรกำหนดพื้นที่ติดตั้งตู้เหล่านี้ให้อยู่สถานที่ที่เหมาะสมพร้อมมีข้อกำหนด ปิดประกาศให้ชัดเจนว่า ไม่อนุญาตให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ใช้บริการและที่สำคัญต้องกำหนดให้ ปิดป้ายประกาศกำกับจุดติดตั้ง ด้วยว่า “ตู้ดังกล่าวเป็นตู้เล่นพนันได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติการพนัน”
“เสพติด-อยากเอาชนะ” จากใจ “ผู้เล่น”
น.ส.วรรณิกา ธุสาวุฒิ อดีตผู้เล่นที่ถลำลึก ยอมรับว่า เสพติดการเล่นตู้คีบตุ๊กตา เริ่มแรกเพียงเพราะเห็นว่า ตุ๊กตาน่ารัก ราคาแพง แลกด้วยการลงทุนแค่ 10 บาท อีกทั้งยังได้ประลองฝีมือการวางแผนคีบเกี่ยวตัวตุ๊กตาตามที่ใจต้องการ
เมื่อเล่นติดต่อกันไปเป็นเวลานานก็รู้สึกเสพติดความเพลิดเพลินและสนุกกับการลุ้นว่า จะคีบตุ๊กตาได้สำเร็จหรือไม่ ความรู้สึกนี้ กลายป็นจุดเริ่มต้น ในเราตกอยู่ในวังวนการพนันแบบไม่รู้ตัวและอาจจะนำไปสู่การพนันรูปแบบอื่นได้อย่างง่ายดาย “ไม่เคยรู้ว่า ตู้คีบตุ๊กตา ผิดกฎหมาย เพราะพบเห็นได้ทั่วไปไม่มีป้ายแจ้งเตือน” น.ส.วรรณิกา กล่าวทิ้งท้าย
สอดคล้องกับนางณิชาภัทร แก้วมณี ผู้ปกครองที่เข้าร่วมเวทีแลกเปลี่ยน และยอมรับว่า
“ไม่ทราบมาก่อนว่า ตู้คีบเหล่านี้เป็นสิ่งผิดกฎหมาย” เพราะที่ผ่านมาก็พบเห็นภาพเด็กและเยาวชน รวมถึง คนทั่วไป เล่นกันได้อย่างปกติ ซึ่งรวมถึงเด็กเล็ก ที่บ่อยครั้งจะเห็นว่า ผู้ปกครองเป็นผู้นำเด็กเล่นอย่างสนุกสนาน
นางณิชาภัทร บอกว่า เคยเตือนบุตรหลานเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลังทราบว่า ตู้คีบตุ๊กตา เป็นเครื่องเล่นที่ถูกจัดไว้ในบัญชีกฎหมายการพนัน เพราะบุตรหลานนำเงินที่ให้ใช้จ่ายประจำวัน ไปเล่นตู้คีบทำให้สิ้นเปลือง
พร้อมเรียกร้องถึงผู้ที่เกี่ยวข้องให้เข้มงวดหรือออกมาตรการกำหนดพื้นที่ติดตั้งตู้,ปิดประกาศแจ้งเตือนข้อมูลว่า เป็นการพนันและปิดประกาศให้ชัดเจนถึงข้อกำหนดอายุผู้เล่นการพนันตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 คือ ไม่ให้บุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ หรือไม่บรรลุนิติภาวะเข้าเล่นด้วย
ตู้คีบตุ๊กตา ผิด พ.ร.บ.การพนันบัญชี ข.
ในปี 2563 กระทรวงมหาดไทย มีนโยบายไม่อนุญาตให้มีการเล่นเครื่องเล่นตู้คีบตุ๊กตาที่เป็นการพนันในบัญชี ข. หมายเลข 28 พร้อมทั้งให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามอย่างเฉียบขาดกับผู้ฝ่าฝืน
แต่ข้อเท็จจริงการเล่น ตู้คีบ มีกรณีที่ไม่เข้าข่ายการพนันด้วย โดยลักษณะของตู้คีบสินค้าทั้ง 2 ประเภทนั้น
ในประเภทที่เข้าข่ายเป็นเครื่องเล่นการพนัน ผู้เล่นจะต้องแลกชิปมูลค่าเหรียญละ 10 บาท เพื่อเล่นเครื่องเล่นคีบตุ๊กตา
โดยการเล่นในแต่ละครั้งผู้เล่นอาจจะได้หรือไม่ได้ตุ๊กตา จึงถือเป็นการพนัน เพราะมีการแพ้ชนะกันระหว่างผู้เล่นกับเจ้าของเครื่องในการจัดให้มีการเล่นลักษณะนี้ ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต หากฝ่าฝืนเป็นความผิดตามมาตรา 12 (2) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนตู้คีบสินค้าประเภทที่ไม่เข้าข่ายเป็นเครื่องเล่นการพนัน คือ ตู้คีบสินค้าที่ผู้เล่นต้องหยอดเหรียญให้ครบตามราคาสินค้าที่กำหนด เพื่อให้เครื่องทำงาน แม้จะใช้วิธีการใดก็ตาม
เมื่อผู้ซื้อสินค้าชำระราคาตามที่กำหนดแล้วก็จะได้รับสินค้าที่อยู่ในตู้ขายสินค้ากลับไปทุกครั้ง โดยมีอุปกรณ์นับไว้อย่างแน่นอน ซึ่งเป็นสินค้าประเภทเดียวกัน มูลค่าเท่ากัน จึงมิได้เป็นลักษณะการนำมาซึ่งผลของการแพ้ชนะกัน ทำให้กรณีนี้ยังถือไม่ได้ว่า “เป็นการแพ้ชนะกันได้ระหว่างผู้เล่นกับเจ้าของเครื่อง ดังนั้นจึงไม่เข้าลักษณะเป็นเครื่องเล่นพนัน” นั่นเอง
ประเด็นสำคัญ คงไม่ได้อยู่ที่ ตู้คีบ ประเภทไหน เข้าข่ายการเล่นพนัน แต่การเคลื่อนไหวของภาคสังคมต้องการให้รัฐหรือผู้ที่เกี่ยวข้องมีมาตรการจำกัดการเข้าถึงเครื่องเล่นเหล่านี้ อย่างเหมาะสม เพื่อปกป้องเด็กและเยาวชนไม่ให้สุ่มเสี่ยงต่อการเข้าสู่วังวน “คนชอบพนัน”
เห็นด้วยทุกข้อความ ที่กล่าวมา ตอนนี้เวลานี้ก้าวเข้ามาสู่หน้าโรงเรียนแล้ว ในซอยเนินพลับหวาน พัทยา หนองปรือ ตำรวจ ปกครอง รู้หรือไม่รู้ ถ้ารู้แล้วทำอย่างไร ทุกวันนี้ที่ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ มีทุกที่ๆในอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ประเจิดประเจ้อมาก เมื่อไม่มีใครรู้เดี๋ยวจะหาคนไปแจ้ง เจ้าหน้าที่ปล่อยประละเลย มี. 157 ให้ดู
เครดิตข่าว T PBS