นักกินฟรี”โพธิ์เงิน”คืนชีพ รายนี้มาเก๋อ้างเป็นทหารติดตาม ส.ส.
“โพธิ์เงิน”คืนชีพ ในอดีตเหตุเกิดที่พัทยาส่วนหนึ่งและอีกหลายๆพื้นที่ ๆมีคดีกินแล้วชักดาบ ไม่ได้แค่เพียงกินอย่างเดียวแต่ยังเข้าอาบอบนวดด้วย โพธิ์เงิน พร้อมที่จะถูกเท้าเข่าศอก ของผู้ที่เขากระทำ “ถือสุภาษิต “กินฟรีเรื่องใหญ่ ติดคุกเรื่องเล็ก”
ในที่สุดเขาถูกจับกุมเมื่อ 18 มีนาคม 2528 โพธิ์เงินถูกศาลลงโทษจำคุก 45 วัน ให้คุมประพฤติเป็นเวลา 1 ปี โทษฐานกระทำความผิดข้อหาฉ้อโกงทรัพย์(ค่าอาหาร). โพธิ์เงิน ยังเป็นนักเลง เขาไม่หนี ยอมถูกหรือเจ้าของร้านทนไม่ได้เขายอมเจ็บ และติดคุก
แต่รายนี้กินแล้วหนีโดยใช้กุลสโลบาย ว่ารอเพื่อนจากนั้นก็ฟอร์มโทรหาผู้ประกอบการต่างๆเช่นในข่าว จากนั้นก็ขอตัวอ้างออกไปโทรศัพท์หานายตามงานที่ตกลงกัน แล้วมันก็หายไปเลยอย่างกรณีนี้…
มิจฉาชีพหลอกกินฟรีอาละวาดหนัก!! อ้างตัวเป็นทหาร ติดตาม ส.ส. ตระเวนนั่งสั่งอาหาร – เบียร์ เต็มโต๊ พอกินอิ่มชิ่งหนีหน้าตาเฉย มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อแล้วหลายราย วอนตำรวจช่วยจัดการ
จากกรณี เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2566 มีชายไทย อายุประมาณ 40 ปี อ้างตัวเป็นทหาร ทำหน้าที่ติดตาม ส.ส. ทำทีเข้าไปในร้านอาหารตามสั่ง ริมถนนสายเทพประสิทธิ์ เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี แล้วสั่งอาหารและกับแกล้มหลายอย่าง พร้อมทั้งเปิดเบียร์อีกหลายขวดดื่มกิน ระหว่างนั่งกิน เจ้าของร้านสังเหตุเห็นความผิดปกติ เนื่องจากบุคคลรายนี้ มีท่าทีลุกลี้ลุกลน ยกโทรศัพท์พูดคุยกับใครบางคนตลอดเวลา โดยบอกกับทางร้านว่า จะมีเพื่อนจะมานั่งกินด้วย ขอให้ช่วยบอกทาง ก่อนที่จะฉวยโอกาสตอนที่เจ้าของร้านเผลอ เดินออกจากร้านไปอย่างหน้าตาเฉย แถมไม่จ่ายบิลแม้แต่บาทเดียว
ถัดมาใน วันที่ 28 สิงหาคม 2566 มีบุคคลลักษณะเดียวกัน ได้ไปเหตุอีกครััง ที่ร้านครัวยายระเบียบ ภายในซอยข้างไปรณีย์ สาขาชัยพฤกษ์ หมู่ 11 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พฤติกรรมคล้ายกันมาก ทำทีสั่งอาหาร กับแกล้ม มาเต็มโต๊ะ พร้อมกับสั่งเครื่องดื่มช็อกโกแลตเย็น 2 แก้ว แล้วตบท้ายด้วยเบียร์อีก 3 ขวด คิดบิลออกมาเป็นเงิน 820 บาท จากนั้นชายรายนี้ก็เริ่มมีท่าทีแปลกๆ ทำทียืนคุยโทรศัพท์ บอกกับทางร้านเพื่อนจะมาหา แต่มาไม่ถูก ขอไปรับหน้าปากซอย โดยแจ้งกับทางว่า “ฝากโทรศัพท์มือถือ บุหรี่ และ ไฟแช็ก ไว้ก่อน ขอออกไปรับเพื่อนแปบ” จากนั้นก็ขี่รถจะจักรยานยนต์ออกไป จนเวลาผ่านไป 10 นาที บุคคลรายนี้ก็ไม่กลับมา พอเดินไปดูโต๊ะ ปรากฎว่า สิ่งของที่ถูกวางไว้ เป็นเพียง เคสใส่โทรศัพท์มือถือ ซองบุหรี่เปล่าๆ กับไฟแช็ก 1 ดวง
ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2566 เวลาประมาณ 18.44 น. ชายรายนี้ ได้ก่อเหตุอีกครั้ง ที่ร้าน ยำเวิร์คช็อป ซอยเขาตาโล หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี แต่ครั้งนี้ พฤติกรรมมาเหนือเมฆกว่าทุกครั้ง โดยมีการแต่งตัว ลักษณะเดียวกัน กับวันที่ไปก่อเหตุ ร้านอาหารตามสั่ง ริมสายถนนเทพประสิทธิ์ โดยเดินเข้าไปในร้าน จากนั้น อ้างตัวเป็นทหาร สังกัดค่ายนเรศวร บอกว่านัดเพื่อนมาคุยธุระ ก่อนจะมีการสั่งอาหารมาเต็มโต๊ะเหมือนเดิม และ สั่งเบียร์อีก 3 ขวด โดยมีการนั่งกินได้ประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง ก็มีเพื่อนตามมาสมทบอีก 3 คน ซึ่งทางร้านก็ไม่เอะใจ จนเวลาไปประมาณครึ่งชั่วโมง ชายดังกล่าวได้หายตัวไป โดยทิ้งเพื่อนอีก 3 คนนั่งรออยู่ที่โต๊ะ นางสาววาสนา โคแสงรักษา อายุ 41 ปี คนดูแลร้าน รู็สึกแปลกๆ ว่าชายคนแรกที่มานั่งกิน หายตัวไปไหน จึงตัดสินใจเข้าไปสอบถามเพื่อนอีก 3 คน ที่ตามมาทีหลัง ว่า “เพื่อนอีกคนไปไหนค่ะ” ปรากฏว่าทั้ง 3 คนตอบพร้อมกันว่า ไม่รู้จักกับชายคนนี้มาก่อน โดยหน้านี้ ชายดังกล่าว ได้โทรศัพท์เข้าไปติดต่อที่ร้านทำม่าน โดยบอกว่า จะทำม่านให้บ้านเจ้านาย โดยนัดให้มาคุยที่ร้านยำเวิร์คช็อป ในซอยเขาตาโล พวกตนเองจึงเดินทางมาตามนัด ระหว่างที่กำลังพูดคุย ชายคนนี้มีท่าทีลุกลี้ลุกลนผิดปกติ ก่อนจะทำท่าขอไปคุยโทรศัพท์กับนาย ก่อนจะหายตัว และ ไม่กลับมาที่โต๊ะอีกเลย ทางร้านพยายามตามหาก็ไม่พบตัว แต่พอเปิดกล้องวงจรปิด พบว่าชายดังกล่าวขี่รถจักรยานยนต์ ออกจากร้านไปแล้ว ทำให้ร้านต้องสูญเสียรายได้ไปทั้งหมด 1,065 บาท จากการที่ชายรายนี้ กินแล้วไม่จ่าย พร้อมทั้งฝาก เพื่อนร่วมอาชีพ ที่เปิดร้านให้ระวังชายคนนี้ให้ดี
ในเวลาไล่เลี่ยกัน เจ้าของ ร้านอาหารอีสาน ชื่อ “กลิ่นครก กลิ่นสาก” ตั้งอยู่ภายในซอยชัยพฤกษ์ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้โพสต์ข้อความเตือนภัย ว่าถูก มิจฉาชีพ แอบมาหลอกกินฟรี ผู้สื่อข่าวจึงรีบลงพื้นที่ไปสอบถามเจ้าของร้านทันที ทราบชื่อเจ้าของร้าน ชื่อ นางสาววราภรณ์ มิฉายา อายุ 32 ปี หรือคุณตุ่ม โดยผู้สื่อข่าวได้นำภาพถ่ายผู้ต้องสงสัย ให้ทางเจ้าของร้านดู ก็ถึงกับร้องลั่นว่า “เป็นคนคนเดียวกันที่มาก่อเหตุที่ร้าน” โดยเรื่องราว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2566 ชายรายนี้ ได้อ้างตัวเป็นทหาร สังกัดค่ายนเรศวร ทำทีมานั่งกิน สั่งอาหารเต็มโต๊ะ และ เบียร์ 1 ขวด บอกกับทางร้านว่า จะกินนั่งรอ เพื่อนเป็นทหารเกาหลี นั่งกินประมาณ เกือบ 2 ชม. ชายดังกล่าวได้บอกว่า ขอขี่รถจักรยานยนต์ไปรับเพื่อน ซึ่งทางร้านหลงเชื่อว่าเป็นทหารจริงๆ จึงยอมให้ขี่รถจักรยานยนต์ออกไป จนเวลาผ่านประมาณ 15 นาที ชายดังกล่าวก็ไม่กลับมา จึงมั่นใจว่าถูกหลอก ส่วนค่าอาหารพร้อมเครื่องดื่มที่ชายดังกล่าวกินไป คิดเป็นเงินทั้งสิน 800 บาท ทำให้เจ้าของร้านเสียใจมาก เนื่องจากร้านขายไม่ค่อยดี แถมมาถูกหลอกกินฟรีอีกจนรู้สึกช้ำใจมาก วอนตำรวจช่วยหาวิธีจัดการชายคนนี้ให้ด้วย เพราะทราบข่าวภายหลังชายคนนี้ ตระเวนก่อเหตุไปทั่วเมืองพัทยาแล้ว …..