วันจันทร์, ธันวาคม 23, 2024
คอลัมภ์

จุดจบของนักเลงคีบอร์ด……..ความจริงนั่งคิดอยู่หลายวันว่าเราจะประสานอย่างไรให้คนทั้ง2เข้าใจกัน อีกฝ่ายเป็นนายจ้าง อีกฝ่ายเป็นลูกจ้าง เมื่อมันเดินกันไปข้างหน้าไม่ได้ก็ต่างคนต่างไป 

เหตุผลของแต่ละคนก็มี และไม่มีใครว่าตัวเองเลว ไม่ว่าจะเป็นลูกน้องเจ้านาย เพราะกระจกมันหลอกตา กลบเกลื่อนความชั่วตัวเองหมด คิดเพียงว่า 

กูถูก กูดี คนอื่นเลวหมด

ทุกคนครับเหตุนี้มีอยู่ว่า คนที่อ้างตัวว่าเป็นนักข่าว เป็นสื่อมวลชน และเป็นเจ้าของธุรกิจรถทัวร์ รถบรรทุก ผมรู้กำพืดมันหมดว่ามันมาจากไหนอย่างไร 

เริ่มจากคำว่าสื่อมวลชนก่อน มาขับรถผมเมื่อหลายปีก่อน คงเห็นผมทำงานด้านสื่อมวลชน อย่างมีศักดิ์ศรี มีเกียรติ (แต่ไม่เคยเอาวิชาชีพตัวเองไปรังแกไคร) มีแต่ช่วย มีแต่ให้ มันก็เลยแสวงหาการเป็นนักข่าวเหมือนผม ด้วยการเป็น สื่อฯ ผมไม่บอกแล้วกันว่าเป็นแบบไหนสื่อชนิดใด เพราะเจ้าของหรือผู้บริหารเขาคงไม่รู้พฤติกรรมของคนๆนี้ ทั้งๆที่ผมรู้เพราะถือว่า แมลงวันย่อมไม่ตอมแมลงวันด้วยกันเอง 

ที่มันมีพฤติกรรมละลานบุคคลอื่น มันเป็นสันดานของตัวบุคคล ที่แสดงความไม่รู้ข้อควรปฎิบัติตัวอย่างไร ในการเป็นนักข่าว 

2 การเป็นเจ้าของธุรกิจประพฤติปฎิบัติอย่างไรเพื่อลูกค้าเพื่อลูกน้อง จะมีใครที่มันจะอยู่กับเราทั้งชีวิตไม่มีหลอก มันจะไปก็ต้องให้มันไป เราก็หาไหม่ ก็เท่านั้น ไม่ควรไปทำร้ายปิดช่องทางทำมาหากินเขา ด้วยการยกตนข่มท่าน ด้วยการใช้อาชีพสื่อ มาข่มขู่เขา 

ก็เลยรู้สึกว่ามันก้าวร้าวบุคคลอื่นโดยไม่รู้ข้อกฎหมาย คนแบบนี้ต้องขีดเส้นด้วยข้อกฎหมาย คนในวงการ นักข่าว แบบนี้เขาเรียกว่า“กาฝาก” ไม่ใช่นักข่าว 

เอาเวลา…..มาหางานวิ่งให้รถหางานให้คนขับมันทำงานพาวะจิตใจมันจะดีขึ้น ดีกว่าเอาเวลามานั่งคิด แค้นทำร้ายคนอื่นด้วยการนั่งเขียนลงเฟสด่าชาวบ้านเขาเอารูปเขามาลง เอาสำเนาบัตรประชาชนเขามาลง อันตรายมากกับเจ้าของบัตร ถ้ามิจฉาชีพ เอาเลข13หลักไปทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายจะทำอย่างไร….สุดท้ายงานนี้ไม่จบ ต้องตกลงกันที่ศาล สุพาษิตเขาถือ อย่าตีหมาให้จนตรอก เพราะมันจะสู้แล้วแว้งมากัดเอา

แล้วเราจะเจ็บ นี่คือจุดจบของนักเลง“คีบอร์ด”คอยรับหมายเรียก ไม่มา 2 ครั้งก็หมายจับ โชคดีนะ 

แดนบูรพา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *