วันศุกร์, พฤศจิกายน 8, 2024
Uncategorized

41 ปี ที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ ได้น้อมนำแนวทางการพัฒนาควบคู่กับนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ

องคมนตรี เปิดงาน 41 ปี ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ สืบสาน รักษา ต่อยอด เพื่อพัฒนาชีวิตที่ยั่งยืน นำผลผลิตออกสู่การตลาดสร้างรายได้

วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2566 เวลา 10.00 น. นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นประธานเปิดงานครบรอบวันก่อตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ “41 ปี ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ สืบสาน รักษา ต่อยอด เพื่อพัฒนาชีวิตที่ยั่งยืน” ณ อาคารสัมมนา 3 ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ จังหวัดสกลนคร โอกาสนี้ นางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการ กปร. กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน จากนั้น องคมนตรีกล่าวให้โอวาทและมอบแนวทางการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมกับมอบปัจจัยการผลิตให้แก่เกษตรกรต้นแบบ กลุ่มเกษตรกรต้นแบบศูนย์เรียนรู้ฯ และโรงเรียนขยายผล ต่อจากนั้นร่วมกิจกรรมปล่อยปลา ปลูกต้นไม้ และเยี่ยมชมนิทรรศการผลการดำเนินงานของหน่วยงานบริเวณแปลงเกษตรผสมผสาน

สำนักงาน กปร. ร่วมกับศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ และจังหวัดสกลนคร จัดงาน “41 ปี ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ สืบสาน รักษา ต่อยอด เพื่อพัฒนาชีวิตที่ยั่งยืน” เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่พระราชทานพระราชดำริในการจัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ทั้ง 6 แห่ง กระจายอยู่ทั่วภูมิภาคประเทศ เป็นเสมือน “พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต” เพื่อให้เกษตรกรและประชาชนทั่วไปเข้ามาศึกษาเรียนรู้และนำองค์ความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพให้มีความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่และบริบทของตนเองต่อไป

ตลอดระยะเวลา 41 ปี ที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ ได้น้อมนำแนวทางการพัฒนาควบคู่กับนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มาดำเนินงานร่วมกันจนก่อเกิดผลสำเร็จ และสามารถขยายผลไปสู่ประชาชนในพื้นที่เป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรม มีผลสัมฤทธิ์เป็นที่ประจักษ์ ทั้งด้านการพัฒนาระบบชลประทาน การพัฒนาระบบการปลูกพืชเศรษฐกิจ การศึกษาระบบนิเวศวิทยาของป่า การปรับปรุงบำรุงดิน การพัฒนาและส่งเสริมด้านปศุสัตว์และด้านการประมง เป็นตัวอย่างแห่งความสำเร็จในเรื่อง สร้างน้ำ เพิ่มป่า พัฒนาชีวิตที่พอเพียง

ช่วงบ่าย องคมนตรีเปิดอาคารนิทรรศการ Information จากนั้นเดินทางไปเยี่ยมชมแปลงเกษตรทฤษฎีใหม่ นายแก้วไสย พันธุลา เกษตรกรเครือข่ายศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริบ้านนานกเค้า ตำบลห้วยยาง อำเภอเมืองสกลนคร ซึ่งมีพื้นที่จำนวน 13 ไร่ 2 งาน มีการจัดสรรพื้นที่เป็นที่อยู่อาศัย และทำกิจกรรมในครอบครัว โดยแบ่งพื้นที่ 3 ไร่ ปลูกไม้ผลรอบบ้าน ได้แก่ มะขามหวาน มะขามเปรี้ยว มะม่วง กระท้อน แปลงปลูกข้าว 7 ไร่ ปลูกยางพารา 2 ไร่ โดยในพื้นที่แปลงยางพารามีการเลี้ยงสัตว์ผสมผสาน ได้แก่ โคพื้นเมือง สุกรดำภูพาน ไก่พื้นเมือง นอกจากนี้ยังขุดสระน้ำ 1 ไร่ 2 งาน สำหรับกักเก็บน้ำไว้ใช้ในภาคการเกษตรและเลี้ยงปลา บริเวณขอบสระน้ำปลูกมะพร้าว ตะไคร้ หม่อนกินผล มะละกอ มะนาว และพืชผักสวนครัวตามขอบบ่อ ทำให้นายไสย มีรายได้จากการขายผลผลิตทุกวัน มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและมีความมั่นคงในอาชีพ

วัฒนะ แก้วก่า/สกลนคร รายงาน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *