ขอบคุณพี่น้องกู้ภัยทุกคนที่เหน็ดเหนื่อย กับการทำงานมาตลอดจนเข้ามาปีใหม่แล้วผมในนามของกรรมการและที่ปรึกษาสมาคมฯขอขอบคุณจริงๆและขอยืนยันว่านับจากวันนี้เป็นต้นไปใครไอ้อีตนใดทำให้คนกู้ภัยสว่างบุญฯมีแม้แต่รอยแมวข่วนผมจะไม่ยอมเด็ดขาด “ฟันต่อฟัน”
ภาพที่ทุกคนใส่เครื่องแบบกู้ภัยเตรียมความพร้อมต่อการรับผิดชอบต่องานที่ต้องทำนั่นคือ ตายเก็บ เจ็บส่ง ตลอดจนคอยรับส่งคนป่วยติดเตียง หรือป่วยด้วยโรคภัยไข้เจ็บต่างๆนอกเหนือจากนั้นยังต้องจับสัตว์มีพิษ ทั้งงู ทั้งสุนัขบ้า แมวตกท่อหมาติดลูกกรง รถยนต์หมดเบตเตอร์รี่รถยางแตกเรียกไปเปลี่ยนล้อให้ ล้วนแต่พวกเขาเหล่านี้ทั้งนั้น
สับสนวุ่นวายไปหมดบางครั้งถูกกดดันจากผู้ใช้บริการ คือประชาชน นั่นเองวันนี้ ทุกคนทนครับทนอย่างหน้ายกย่อง ทั้งๆที่เขาเป็นแค่จิตอาสา อยากทำอยากช่วยพี่น้องประชาชนที่ตกอยู่ในความเดือดร้อน ณ ขณะนั้น
ยิ่งยุคนี้เป็นยุคโซเชียล พลาดก็โดน อัดคลิปถ่ายภาพประจาน ทุกคนได้แต่ทำห้ามแสดงปติกิริยาหรือออกอาการใดๆทั้งสิ้น มันคือความอึดอัดของพวกเขาจริงๆ
ผมตกอยู่ในวงจรนี้มา30 ปีรู้ถึงความรู้สึกของจิตอาสาดี เราเริ่มต้นมาจากไม่มีอะไรเลยแม้แต่อุปกรณ์วิทยุก็ไม่มีโทรศัพท์มือถือทุกวันนี้ก็ไม่มี มีคนถามเยอะมาก “ทำเพื่ออะไร” ทุกวันนี้การกระทำเป็นคำตอบบ่งบอกอยู่แล้วครับว่าทำเพื่ออะไร
ประชาชน ตลอดจนสังคม ตอบแทนได้แล้ว
ผมในฐานะผู้ก่อตั้งสมาคมกู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือธรรมสถานตราดมาตั้งแต่ปี2537 เพราะน้ำท่วมใหญ่ในอำเภอบ่อไรและไหลลงมาท่วมห้วยแร้งเมืองตราด น้ำมาอย่างไรผ่านที่ไหนมาบ้างผมตอบได้หมดเพราะออกปฎิบัติเองเพาะมีคนน้อยมาก ถึงวันนี้30ปีแล้วครับหลังจากที่ผมห่างหายไปนานกว่า7ปีไม่ได้กลับมาเพราะเรามีนายกสมาคมฯปฎิบัติหน้าที่อยู่แล้ววันนี้ที่มาเพราะคำร้องขอของนายกฯและกรรมการสมาคมฯให้มาช่วยบางเรื่องและเรื่องที่ผมยอมไม่ได้
ต่อไปนี้อะไรจะเกิดก็ต้องฟันต่อฟัน
เหตุที่พูดแบบนี้เพราะตลอดมาที่ฟังอยู่มีคนกลุ่มหนึ่งที่ออกไปจากเราแล้วไปก่อตั้งกันขึ้นมาแล้ววกมากัดพวกเราด้วยการใช้วาทะศิลป์ในการพูดให้เด็กๆทะเลาะกันจนเป็นเรื่องขึ้นโรงพักกันบ่อยครั้งมาก
ผมรู้ว่าใครเพราะมันกินข้าวบ้านผมนอนบ้านผมมานานเรียกว่า ขุนไม่เชือง มีอยู่ 2-3 ตัว อ่านบทความนี้ถ้าไม่จริง ก็คอมเม้นมา เดี๋ยวจะตอบให้ ว่ามันเข้ามาทำเพราะอะไร ถ้าไม่ใช่เพราะผลประโยชน์ ตอนนี้มันก็อิ่มเมื่อไม่มีใครรู้เท่าทันมัน ในที่แห่งใหม่ ต่อไปนี้คนของสมาคมเป็นอะไรแม้แต่รอยแมวข่วนผมจะไม่ยอมเด็ดขาด เพราะความอดทนมันสิ้นสุดแล้ว อาสาเราต้องอดทนอย่าไปต่อกรแล้วใช้กฎหมายดำเนินคดี กับบุคคลเหล่านี้
ย้อนกลับมาเมื่อวันที่31ธันวาคมปีเก่าต่อเนื่องปีใหม่ 2567 วันนั้นผมได้เจอเพื่อนเก่าที่เข้ามาอยู่เมื่อปี 2537 ปีแรกที่เราทำกู้ภัยสมัยเป็นชมรมเขาอยู่ที่ชุดฉางเกลือ ขอบคุณอีกครั้งเพื่อนที่ยังอยู่ด้วยกัน และวันนี้ผมพร้อมด้วยกรรมการและเพื่อนๆสมาชิกสมาคมได้ไปเยี่ยมเพื่อนๆทั่วทุกจุดของ4อำเภอที่ออกมาช่วยงานหน่วยราชการในการป้องกันเหตุ 7 วันอันตราย ผมเห็นพี่น้องกู้ภัยเสียสละเวลามาทำงานให้กับสังคมจำนวนมากแล้วน้ำตาคลอ คำถามอยู่ในใจว่า
“คุณคนดีเหลือเกิน เงินก็ไม่ได้ อะไรก็ไม่มีทุกอย่างออกเองลงทุนเอง ผมรักพวกคุณจริงๆ”
ชื่นชมแบบนี้จริงๆอยู่ในใจ นอกเหนือจากคำพูดที่พูดออกมาว่า“ขอบคุณนะทุกคน”ที่ออกมาช่วยกัน
สุทัศน์ บุญช่วยเหลือ