นครพนมหลวงปู่คีบอายุ108ผู้มากด้วยบารมี สร้างวัตถุมงคลชื่อ“เจ้าสัวมนต์นาคา”ชื่อขลังถูกจองหมด
เทพเจ้าลุ่มน้ำโขง หลวงปู่คีบ ธีรปญฺโญ พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง อายุ 108 ปี วัดป่าสุทธาวาส ต.บ้านค้อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม เมตตาทำพิธีเสกวัตถุมงคลรุ่นเจ้าสัวมนต์นาคา เซียนแห่จองเกลี้ยง ชาวพุทธแห่ร่วมพิธีคับคั่ง
วันที่ 30 มีนาคม 2567 ที่วัดป่าสุทธาวาส บ.ค้อ ต.บ้านค้อน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม นายเกรียงไกร จิรสวัสดิ์ตระกูล หรือป้อมสกลนคร นายนิภัทร์ สมาร์ทอินเมจ หรือเฮียภัทร และทีมงานพี่เสือ จัดสร้างวัตถุมงคลรุ่นเจ้าสัวมนต์นาคาขึ้น โดยได้รับความเมตตาจาก ลวงพ่อคีบ ธีรปญโญ อายุ 108 ปี เจ้าอาวาสวัดป่าสุทธาวาส นำพิธีพุทธาภิเษก โดยมีลูกศิษย์จากทั่วสารทิศเข้าร่วมจำนวนมาก ซึ่งกลุ่มผู้สร้างวัตถุมงคลจะนำเงินไปก่อสร้างห้องน้ำภายในวัดอีก 10 ห้อง
นายนิภัทร์ สมาร์ทอินเมจ ทีมงานพี่เสือสร้างทุกรุ่นมีคุณภาพ มวลสารดี เกจิบารมีสูงถึง 108 ปี พิธีใหญ่มวลสารครบ จบด้วยความใส่ใจของผู้สร้าง กับรุ่นนี้”มนต์นาคา”แห่งลุ่มแม่น้ำโขงเชื่อมโยงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แค่คิดก็คุ้มค่า บอกเลยว่ามีทุกพิมพ์กับความชื่นชอบพุทธศิลป์ของพี่เสือสร้างเมื่อไหร่รุ่นไหนเตรียมใจไว้ได้เลย ว่าแรงสุดๆคุณป้อมสกลนครบอกว่า”ภูมิใจที่ได้สร้างพระบ้านเกิดโดยเกจิดังอายุ 108 ปีหลวงปู่คีบ ธีรปัญโญ แห่งวัดป่าสุทธาวาส พระที่มีเมตตามาก บารมีสูง ทุกสิ่งที่ทำนำมาซึ่งความสุขให้กับผู้ที่ได้รับพระทุกพิมพ์ที่สร้าง เพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศไปเปิดตลาดให้ชาวพุทธในแต่ละประเทศ เช่น ฮ่องกง ใต้หวัน มาเลเซีย สิงคโปร์ และอีกหลายๆแห่ง พระที่ทีมพี่เสือสร้างทุกรุ่นทุกพิมพ์ชาวต่างชาติต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่าสวยและดี
พวกเขารู้จักพระในเมืองไทยหลายองค์ที่โด่งดัง จึงหาเก็บไว้แม้จะราคาสูงแต่เขามีกำลังจับจ่ายได้ ด้วยพิธีเข้มขลัง ราคาเมืองนอกต้องยอมรับว่าแรงมากๆแพงหลายร้อยเท่าของในเมืองไทยเพราะสื่อโซเชียลได้นำเสนอแล้วทางเขาติดตามจนรับรู้รับทราบความเคลื่อนไหวในแต่ละรุ่นที่ทีมพี่เสือสร้าง
สำหรับประวัติหลวงปู่คีบ ธีรปญฺโญ มีนามเดิมว่า คีบ จำปา เกิดเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2458 ในใบสุทธิและบัตรประชาชนได้ระบุปี 2463 ในวัยเด็ก เมื่อปี พ.ศ. 2468 อายุ 10 ขวบ ได้เข้ารับการศึกษาเล่าเรียนที่โรงเรียนประถมศึกษาวิทยฐานะ พ.ศ. 2470 สำเร็จการศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านค้อ ต.บ้านค้อ อ.ท่าอุเทน (ปัจจุบันโพนสวรรค์) จ.นครพนม
การบรรพชา เมื่อปี 2476 ได้บรรพชาเป็นสารเณร ที่วัดโพธิ์สุมบ้านค้อ ต.บ้านค้อ อ.ท่าอุเทน (ปัจจุบันโพนสวรรค์) พระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อกงมา เจ้าอาวาส เดือนมกราคม เมื่อปี พ.ศ. 2476 อยู่ศึกษาเล่าเรียนธรรมบาลี ปริยัติธรรม อยู่กับพระอุปัชฌาย์ระยะหนึ่ง ต่อมาได้สมัครไปเล่าเรียนนักธรรมตรี ที่ สำนักวัดศรีทอง บ้านโพนสวรรค์ ต.โพนสวรรค์ ในสมัยนั้นมีพระอธิการเกิด เป็นเจ้าอาวาส และพระผู้สอนพระอาจารย์ผัน บ้านรามราช ต.รามราช อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ได้ศึกษาเล่าเรียนกับพระอาจารย์จนจบ เมื่ออายุครบ 19 ปี ด้านการอุปสมบท ได้รับการบรรพชาอุปสมบทเมื่อ วันที่ 10 กุมพาพันธ์ พ.ศ. 2478 ณ พัทธสีมา วัดโพธิ์สุม บ้านค้อ อ.ท่าอุเทน พระอุปัชฌาย์ เจ้าอธิการบุญจันทร์ กตปุญโญ วัดโพธิ์สุม พระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการหนูพิน วัดโพธิ์ชัยพระอนุสาวนาจารย์ พระอาจารย์สวย วัดโพธิ์ชัย
ได้ศึกษาเล่าเรียนและปฏิบัติพระกรรมฐานธุดงค์วัตรตามสถานที่ต่างๆ ปลิกวิเวก เข้ากราบศึกษาธรรมกับพระอาจารย์หลายรูป อาทิเช่นหลวงปู่สนธิ์ สุรชโย วัดท่าดอกแก้ว หลวงปู่คาร คันธิโย วัดโพธิ์ชัย ทั้งสองรูปเป็น ลูกศิษย์ผู้ใหญ่สายพ่อแม่ญาครูสีทัตถ์ ญาณสัมปัญโณ จวบจนสำเร็จสัพพระวิชาต่างๆ ก่อนท่านจะทำการลาสิกขาเพื่อช่วยเหลือพ่อแม่ประกอบสัมมาชีพ ใช้ชีวิตปุถุชนทั่วไปเหมือนปกติ หลวงปู่ท่านเป็นคนขยันหมั่นหาความรู้ในชีวิตของการเป็นฆราวาสของท่านได้ศึกษาตำรายาสมุนไพ รักษาโรค เป็นหมอธรรมและหมอยา เชี่ยวชาญการใช้ยาสมุนไพ ร าและคาถากำกับในการปรุงยารักษาโรค ท่านได้เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์อีกครั้ง เมื่อปี พ.ศ. 2520 ได้ไปจำพรรษาที่วัดชุมพล บ้านพานพร้าว ต.พานพร้าว อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย และได้ธุดงค์ไปในสถานที่ต่างๆ ก่อนจะไปจำพรรษาที่วัดบ้านหนองบัว ต่อมาในปี 2524 ท่านได้ทำการเข้าสอบนักธรรมชั้นตรี ได้รับผลสำเร็จนักธรรมชั้นตรี ต่อมาจนจบนักธรรมโท และนักธรรมชั้นเอกเป็นอันสูงสุด และกลับออกมาธุดงค์วัตรเหมือนดังเดิม จนในปี 2527 ท่านธุดงค์ไปภูเพ็ก ได้สร้างกุฏิไว้หนึ่งหลัง ใช้เวลาหลายปี พักการธุดงค์เพราะอายุที่มากขึ้นและในปี 2531 จึงธุดงค์กลับบ้านเกิด จำพรรษาที่วัดโพธิ์สุม ต.บ้านค้อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ท่านเป็นพระนักปฏิบัติและเมตตาสูง อีกทั้งยังเป็นหมอยารักษาคน แม้ท่านจะอายุมากแต่ก็แข็งแรงไม่มีโรคประจำตัวสุขภาพดี ท่านเป็นพระผู้มักน้อยสันโดษไม่รับยศตำแหน่งใดๆ.