คนเวียดนามเปิดขายตั๋วไปทำงานไทยค่าหัว4พันบาท/ขนส่งไกลถึงหมอชิตตำรวจไทยจับได้เพียงเสื้อผ้าเก่าที่เสียภาษีแล้ว ขนส่ง-ตำรวจ อ้างไม่รู้ใช้กฎหมายอะไร ทีคนไทยรถตู้ป้ายดำรับจ้างจับได้จับดี นี่รถบัสลาววิ่งทับเส้นทางชัดๆบอกไม่รู้ฯ

ตำรวจภูธรผึ่งแดดมุกดาหารเล่นปาหี่ รถบัสลาวขนคนข้ามมาประเทศไทย วิ่งรับส่งผู้โดยสารแข่งกับผู้ประกอบการไทย ตำรวจหาข้อกฏหมายจับกุมไม่ได้ เมื่อคืนก่อน4คันเมื่อคืน21 เม.ย.อีก2คัน 

ปาหี่ที่ว่าจับของ-ยึดตรวจสอบเกรงว่าที่เสียภาษีไปมันน่าจะไม่ถูกต้อง ของที่ยึดไว้ตรวจสอบมีเสื้อผ้าเก่าจำนวนมากกว่า25กระสอบ มีใบเสร็จรับของกรมศุลกากร  เท่ากับเสียภาษีถูกต้องจำนวนเงิน 50.000 บาท 

เรื่องอย่างนี้ตำรวจไม่รู้ว่าเขาเสียภาษีแล้วๆคุณมาบอกว่า“ฉันไม่เชื่อ”มองหน้ากันไม่ติดก็ศุลกากรนี่แหละ ตำรวจครับ พ.ต.อ.จิรวิทย์ ปานยิ้ม ผกก.สภ.ผึ่งแดดครับ ครับ อันนี้เนี่ยความผิดมันไม่ขัดเจนเท่าที่รถบัสคันนี้  ทะเบียน บข.6789 จังหวัดกำแพงนคร มันบรรทุกสินค้า ขนย้ายถ่ายไปในประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีรถอีกคันในวันเวลาเดียวกันมีผู้โดยสารเต็มคันกลับปล่อยไปเหมือนเมื่อ

วันที่จับได้4คันก่อนหน้านั้นขนเวียดนามมาเต็มคันมุ่งหน้าสู่กรุงเทพมหานครส่งที่บขส.หมอชิตด้วย ครั้งนั้นเท่าที่ทราบเบื้องต้นคราวๆอย่าเชื่อผมนะว่าคนขับทั้ง4คนไม่มีใบอนุญาตขับขี่สักคนเดียวตั้งแต่3ทุ่มยันเที่ยงคืนแต่ก็ปล่อยไป โดยให้เหตุผลว่าไม่ได้นำมา 

จริงๆสื่อเขาลงเรื่องนี้ต่อสู้กับเรื่องนี้เพราะมันมาแย่งอาชีพคนไทยมาประกอบธุรกิจแข่งขันกับคนไทยคุณรู้มั๊ยว่าธุรกิจรถทุกวันนี้แย่มาก แล้วมาปล่อยให้รถเหล่านี้มาวิ่งทับเส้นทางเขาได้อย่างไร จับได้แต่หาข้อกฏหมายจับมันไม่ได้ทุเรศมาก พอรถตู้ป้ายดำประเทศไทยป้ายดำรับจ้างจับ ซาเล้งขี่ จยย.ในบ้านจับเป่าปริมาณประมาณแอลกอฮอล์ ที่อย่างนี้ทำได้หรือทำหรือเก่งเฉพาะประชาชนคนไทย

แม้แต่กรมการขนส่งทางบกก็เหมือนกัน 2 ที่มีนครพนม และมุกดาหาร เขี้ยวจังกับรถไทย ผู้ประกอบการไทย ความผิดแบบนี้บอกหาข้อกฏหมายไม่ได้

ข้อแรกจะบอกให้สอบถามผู้โดยสารมาอย่างไรทุกคนตอบเหมือนกันหมดซื้อตั๋วมาเป็นรายบุคคล เท่ากับมันรับจ้างแล้ว 

ผมไม่รู้จะพูดจะบอกอย่างไรกับท่านผู้กำกับ และตำรวจชุดจับกุม และขนส่ง จังหวัดทั้ง2แห่งเพียงแค่อยากบอกว่าเห็นใจผู้ประกอบการ รถบัสรถทัวร์ในประเทศไทยที่เสียภาษีปีละ50.000 บาท(รวมประกัน จีพีเอส)

แล้วรถลาวรับผู้โดยสารไปส่งถึงกรุงเทพ รับกลับเข้ามาอีกส่วนหนึ่งวิ่งไปวิ่งกลับอยู่อย่างนี้จนผู้ประกอบการไทยอิจฉามันรายได้มันดีมากเที่ยว7-8หมื่นบาทไปกลับเกือบ2แสนบาท เฉลี่ยค่าหัวคนละ 4.000 บาทใช้ถนนบ้านเราเอารายได้ไปบ้านมันใช้ส่วนใหญ่เป็นชาวเวียดนาม

ระหว่างทางนอกจากพื้นที่จับแล้ว ยังมีที่นครราชสีมาจับด้วยแล้วก็ปล่อยที่ “โนนสูง”ผมไม่เข้าใจจริงๆ แล้วก็แปลกแต่จริงตำรวจไทยหาข้อกฏหมายจับมันไม่ได้ 

จริงๆนะงานนี้ไม่อยากบอก“บิ๊กโอ๊ด”พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4 ว่าตรวจสอบให้หน่อย แต่ก็อดคิดถึง ”บิ๊กอ้อ“ พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี  ผู้ช่วย.ผบ.ตร.ผ่านไปถึง “บิ๊กต่าย” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รรท.ผบ.ตร.ให้ยุ่งยากใจ แต่ด้วยหน้าที่สื่อที่ผู้ประกอบการรถบัสทั้งประจำทางไม่ประจำทาง ร้องมาและเห็นตลอดเวลาเพราะรถลาวมันมีพนักงานขับรถเป็นคนไทยความเร็วไม่มีกำหนดจีพีเอสไม่ต้องติดความเร็วไม่มี 

นี่คือสองมาตรฐานอีกอย่างต้องบอกถึงท่านจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบกท่านได้รับรายงานหรือท่านทราบข่าวจากสื่อบ้างมั๊ยทราบแล้วจะทำอย่างไร หรือมันอยากกว่าผู้ประกอบการไทย

ผมต้องดักคอว่าอย่าอ้างว่าเป็นการท่องเที่ยวเพราะชาวเวียดนามที่มาประเทศไทยมาทำงานทั้งเด็กเสริม ร้านเสริมสวยสวย ร้านอาหารบาร์เท็คตลอดจนขายบริการ นี่คือธุรกิจของเขาที่พัทยาจีนเทาเอาเวียดนามมา 30.000 ขาดตัว

เครดิตภาพบางส่วนข่าวความมั่นคงออนไลน์