เมืองเจริญสิ่งผิดกฎหมายก็โตต้อนรับ มิจฉาชีพผุด มากขึ้น นักซิ่ง นักล้วง นักวิ่งราวทรัพย์ ขโมย ขโจร มากขึ้นเป็นเงาตามตัว ไม่เลือกเงินไทยเงินต่างชาติได้หมดมีที่รับแลกเป็นดอกเห็ด
โอกาสและเวลาทำให้คนคิดฉวยโอกาสทำผิดกฎหมาย ตั้งแต่การท่องเที่ยวบูม พัทยาเกิดตู้แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็นดอกเห็ด ผิดกฎหมายหรือไม่ จะมาถามและมาคุยกัน ในเรื่องทั่วๆทั้งการเมืองและ บู๊ทแลกเปลี่ยนเงินในพัทยา
หลังโควิท19 ใน 3 ปีทีผ่านมาการท่องเที่ยวของพัทยามีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นด้วยปัจจัยหลายๆอย่างประกอบกันนอกเหนือจาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปยังประเทศต่างๆมาลงทุนในประเทศไทยและทำฟรีวีซ่าเข้าสู่ประเทศไทย ในช่วงไฮซีซั่น ที่ผ่านมาระหว่างเดือน พฤศจิกายน-เดือนเมษายน โดยเฉพาะประเทศมาเลเซียมาเป็นอันดับหนึ่ง 5 ล้านคน ประเทศจีน ที่เข้ามาเป็นจำมากถึง 4 ล้านคน อินเดีย 2 ล้านคน เกาหลีใต้ 1 ล้าน 7 แสนคน รัสเซีย 1 ล้าน 1 ล้าน 6 แสนคน รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 30 ล้านคน ที่เข้ามาประเทศไทยยุครัฐบาล เพื่อไทย
ถึงภาพสังคมคนไม่ชอบจะออกมาประณามว่ากล่าว ถึงการทำงานของรัฐบาลว่าไม่มีผลงาน แม้จะมีรูปธรรมให้เห็นเช่นยางพารา 100 / กิโลแล้วก็ตาม บุคคลเหล่านั้นก็ยังไม่พอใจ เอาความรู้สึกตัวเองมาเป็นตัวชี้วัด จริงๆแล้วประเทศชาติเขาต้องการความรักความปรองดอง ตั้งแต่วันตั้งรัฐบาลชุดนี้แล้วเมื่อปี 2566 แต่ก็ยังไล่ล่าหาเหตุล้มรัฐบาลให้ได้ระวังเส้นโรหิตในสมองแตกตายก่อนเพราะไม่สมหวัง แม้แต่เรื่อง ดร.ทักษิณ ก็เช่นกัน ก็มาแหกปากกัน ว่าหนีเตรียมเครื่องไว้แล้ว ถามจริงๆท่านปัญญาชนทั้งหลายคุณคิดได้ไง เขาหนีไป 17 ปี วันนี้ 75 ปีเขาจะหนีไปทั้งชีวิตหรือ ไม่อยากพูด “สมองหมา ปัญญาอะไร…?” สรุป ไม่หนี ไม่ติดคุก …
มาพูดถึงเรื่องประกอบธุรกิจแลกเงินตั้งตู้ทั่วเมืองพัทยากันเพราะเวลานี้มันมากมายจนไม่รู้ว่าถูกกฎหมายทั้งหมดหรือไม่ บางตู้สีเดียวกันเครื่องหมายเดียวกันมีอยู่จำนวนมาก การมีตู้หลายๆแห่งแล้วเจ้าของเดียวกันกฎหมายบอกว่า ทำไม่ได้ เช่น
เมื่อผู้ยื่นคำขออนุญาตประกอบธุรกิจเป็นบุคคลรับอนุญาต ได้รับใบอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการคลังแล้ว ต้องถือปฏิบัติดังนี้
1. สถานที่ประกอบธุรกิจ ทำได้เฉพาะสถานที่ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
1.1 กรณีประสงค์จะเพิ่มสถานที่ประกอบธุรกิจแห่งใหม่นอกเหนือจากที่ได้รับอนุญาต ต้องขออนุญาตใหม่ (จะใช้ใบอนุญาตที่ได้รับแล้วไปใช้กับสถานที่ประกอบธุรกิจแห่งใหม่ไม่ได้)
1.2 กรณีประสงค์จะเพิ่มจุดบริการภายในสถานที่เดิมที่ได้รับอนุญาต ต้องยื่นคำร้องขออนุญาตพร้อมแนบแผนผังและรูปถ่ายแสดงจุดที่จะทำการแลกเปลี่ยนเงิน ต่อเจ้าพนักงานควบคุมการ แลกเปลี่ยนเงิน และเมื่อได้รับอนุญาตแล้วจึงจะเปิดทำการได้
1.3 กรณีประสงค์จะประกอบธุรกิจนอกสำนักงานของตนเป็นการชั่วคราว ต้องยื่น คำร้องขออนุญาตต่อเจ้าพนักงานควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินพร้อมชี้แจงเหตุผลความจำเป็นและเอกสาร หลักฐานที่เกี่ยวข้องล่วงหน้าไม่น้อยกว่า15 วันก่อนวันที่ประสงค์จะประกอบธุรกิจนอกสำนักงานของตน และเมื่อได้รับอนุญาตแล้วจึงจะประกอบธุรกิจได้
นี่คือข้อกฎหมายที่ระบุชัดเจนว่าทำครั้งละหลายตู้ไม่ได้ พัทยา มีการตรวจเรื่องนี้กันหรือไม่
ในขณะเดียวกัน ธ.ป.ท.เริ่มใช้มาตรการตรวจสอบ ป้องกันการฟอกเงิน โดยผู้ที่แลกเงินกับร้านแลกเงินตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไปต้องรายงานข้อมูลไปยัง ธ.ป.ท. ร้านซื้อขายเงินตราต่างประเทศ ที่จะมาเเลกเปลี่ยนเงิน จะต้องแสดงหนังสือเดินทาง หรือ พาสปอร์ต หรือ ประจำตัวประชาชน เพื่อแสดงตัวตนก่อนใช้บริการ
ลูกค้าที่มาแลกเงินเป็นนักท่องเที่ยวแต่ละรายแลกเงินต่อครั้งก็ไม่น้อยโดยเฉพาะไกด์แต่ละประเทศนอกเหนือจากนั้นยังมีมิจฉาชีพพวกฉกชิงวิ่งราวทรัพย์ เข้าไปแรก ไม่ต้องทำตามเงื่อนไขจะสามารถทำกำไรให้ทางร้านได้อย่างสูง ถ้ามีแบบนี้จริงๆแล้วมันก็ไม่คุ้มค่ากับความเสี่ยงหากไปพัวพันกับกลุ่มมิจฉาชีพจริงตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
เชื่อเหลือเกินว่าบุคคลส่วนใหญ่กลุ่มที่ทำไม่ถูกกฎหมายจะปฏิเสธที่จะให้เอกสาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรประชาชน หรือ พาสปอร์ต เขาจะบอกว่าเค้าไม่มี ซึ่งกลุ่มเหล่านี้อันตราย แต่ผลประโยชน์ของนักลงทุนอะไรที่ได้คว้าไว้ก่อน
ว่ากันว่า ในกลุ่มมิจฉาชีพเอง หากจะมีการแลกเงินนั้นก็คงจะต้องใช้บริการร้านรับแลกเงินใต้ดิน หรือร้านรับแลกเงินที่ผิดกฎหมาย มากกว่าการมาแลกร้านรับแลกเงินที่ได้รับอนุญาตถูกต้อง แม้ว่าอัตราผลตอบแทนที่ได้รับจะต่ำกว่าก็ตาม ดังนั้นถึงถามว่าพัทยามีที่รับแลกเปลี่ยนเงินตราจำนวนมากถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่แล้วตรวจสอบกันหรือยัง
แดนบูรพา