การศึกษาปลูกฝังความรู้สึกเกี่ยวกับด้านคุณธรรมให้กับเด็กๆ เพราะมองว่านั่นคือคุณภาพชีวิตที่สำคัญที่สุดของมนุษยชาติ จากประสบการณ์ในการใช้ชีวิต “เมื่อผู้คนขาดคุณธรรมในจิตใจเป็นหลักยึด โลกที่เราเห็นจึงกลายเป็นโลกที่ผู้คนแก่งแย่งชิงดีกัน เรื่องเลวทรามต่ำช้าขนาดไหนก็ทำกันได้หมด ยาเสพติดแทรกซึมเข้าไปทุกหย่อมหญ้า ธุรกิจต่างๆก็มุ่งกันแต่ผลประโยชน์เป็นที่ตั้ง คอรัปชั่นเกิดขึ้นในทุกที่หน่วยงานทุกหน่วยงานไม่มีคำว่าไม่มีรอยด่าง การแก่งแย่งอำนาจ“ บทที่ท่านเขียนวันนี้ สท้อนให้เห็นตั้งแต่เริ่มจนถึงปัจจุบัน ติดตามครับ
เพราะอะไรถึงต้องเน้นคุณธรรมเป็นเป้าหมายแรก
ย้อนกลับไปในอดีตราวสามสิบปีที่แล้วตอนที่ผมเริ่มประสบความสำเร็จด้านธุรกิจ อาจเป็นเพราะความพร้อมอาจเป็นเพราะชื่อเสียงที่ทำความสำเร็จด้านธุรกิจค่อนข้างสูง จึงมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับทางสังคมที่ผู้คนไขว่คว้า อยากเข้าไปมีส่วนร่วมเพื่อปูพื้นฐานไปสู่ความมีชื่อเสียงติดต่อให้รับตำแหน่งต่างๆ แต่ก็ปฏิเสธไปเกือบทุกหน่วยงานเพราะไม่สนใจในเรื่องของลาภยศสรรเสริญเท่าไหร่ แต่มีอยู่หน่วยงานหนึ่งที่เมื่อติดต่อมาก็ตอบรับทันทีนั่นคือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับองค์กรการศึกษาโดยได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาทั้งเรื่องแนวทางการศึกษาและพัฒนาคน ผมมองว่าสาเหตุที่การศึกษาของเรายังไม่ค่อยประสบความสำเร็จน่าจะเป็นเรื่องคุณภาพบุคลากรทางการศึกษาของเราที่ยังได้รับการพัฒนาค่อนข้างจำกัด ก็เลยตอบรับเข้าไปช่วยในเรื่องการศึกษาจากนั้นมาก็ทำโครงการอะไรร่วมกับกระทรวงศึกษามากมายมีทั้งแจกอุปกรณ์การศึกษาให้กับเด็กๆไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกระเป๋ารองเท้าหรือแม้กระทั่งหนังสือเรียน แล้วก็ยังทำห้องสมุดเคลื่อนที่ โดยนำหนังสือเป็นกล่องใหญ่ๆกล่องละ 100 เล่มหมุนเวียนไปตามโรงเรียนต่างๆให้เด็กใช้ยืมอ่านเป็นห้องสมุดเคลื่อนที่ มีการจัดอบรมพัฒนาครูมีการแจกรางวัลครูดีเด่น ในขณะนั้นเริ่มมีคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้ในสถานศึกษาก็บริจาคช่วยเรื่องคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา ทั้งให้ฟรีแล้วก็มีขายให้กับเด็กนักเรียนในราคาถูก แต่ปรากฏว่าโครงงานต่างๆที่สนับสนุนไปไม่ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายก็ตั้งคำถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นสุดท้ายคำตอบที่ได้ก็ไม่พ้นคำว่าผู้คนขาดคุณภาพขาดคุณธรรม
หลังจากทุ่มเททำอยู่หลายปีจนถึงปีพุทธศักราช 2542 ตอนนั้นการศึกษาเริ่มปรับเปลี่ยนทางด้านการบริหารจัดการ โดยมีเขตพื้นที่ถือกำเนิดขึ้นนัยว่าเพื่อเป็นอิสระในการบริหารจัดการ และโครงสร้างนี้จะมีคนของภาครัฐมาเป็นผู้อำนวยการเขตพื้นที่ แล้วก็มีภาคประชาชนมารับตำแหน่งเป็นคณะกรรมการศึกษาในเขตพื้นที่เช่นกัน โดยสามารถกำหนดแนวนโยบายการศึกษาบางส่วนเป็นอิสระ โดยไม่ต้องขึ้นตรงกับกระทรวงทั้งสิ้น จุดนี้เองที่ผมถูกทาบทามให้เข้าไปรับตำแหน่งประธานเขตพื้นที่การศึกษาก็ตอบรับด้วยความยินดี เพราะคิดว่านี่คือโอกาสที่จะเข้าไปมีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงให้มีประสิทธิภาพทางด้านการศึกษาในบางเรื่องที่เราคิดว่าควรมีการปรับปรุง เรื่องแรกที่กำหนดเอาไว้ก็คืออยากให้วงการศึกษาปลูกฝังความรู้สึกเกี่ยวกับด้านคุณธรรมให้กับเด็กๆ เพราะมองว่านั่นคือคุณภาพชีวิตที่สำคัญที่สุดของมนุษยชาติ จากประสบการณ์ในการใช้ชีวิตที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเมืองการปกครอง เรื่องของเศรษฐกิจเรื่องของสังคม ต่างก็ตกอยู่ภายใต้ความวุ่นวายที่ผู้คนขาดคุณธรรมเป็นต้นเหตุ จึงมีความคิดว่าต้องเปลี่ยนให้ผู้คนเน้นหนักในเรื่องของคุณธรรมจริยธรรมให้ได้ จึงได้เริ่มต้นกำหนดคุณธรรมสามประการขึ้นอันประกอบไปด้วยซื่อสัตย์ กตัญญูรู้รับผิดชอบโดยมีความเชื่อว่าคุณธรรมเบื้องต้นสามประการนี้ถ้าสามารถซึมซับเข้าไปปลูกฝังอยู่ในอุปนิสัยของผู้คนจะสามารถเปลี่ยนได้ทุกสิ่งเพราะเชื่อว่าต้นเหตุที่แท้จริงทั้งหมดเกิดจากผู้คนขาดคุณสมบัติเหล่านี้ จึงดูเหมือนวุ่นวายไปซะหมดในทุกเรื่องและทุกที่
หลังจากมุ่งมั่นทำอย่างจริงจังโดยการสนับสนุนในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเวลาหรือทรัพย์สินเงินทอง แต่สุดท้ายก็ไม่ไปไหน สาเหตุของการล้มเหลวก็เกิดจากคนไม่มีคุณธรรมนั่นแหละคนส่วนใหญ่ไม่ต้องการอยู่ในกรอบที่ดีและถูก จึงไม่ยอมให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้เมื่อทุ่มเททำเรื่องนี้สิบกว่าปี ก็ยังไม่บังเกิดผลอะไรเลยคิดว่าพอได้แล้วเสียทั้งเวลาเสียทั้งเงินทองที่สำคัญคือเสียความรู้สึกอีกต่างหากก็เลยหันมาทำมูลนิธิเด็กเพื่อส่งเสริมเด็กยากจนในจังหวัดระยองทั้งหมดให้ได้รับการศึกษาโดยอุปการะเพื่อให้จบปริญญาตรี ตั้งเป้าหมายว่าจะต้องปลูกฝังให้เด็กเหล่านี้ได้ทั้งความรู้และคุณธรรมควบคู่ไปด้วยก็ได้ผลไปส่วนหนึ่งยุคแรกๆเด็กทุนต่างก็เรียนดีและมีความประพฤติดีอีกต่างหาก แต่พอมาระยะหลังๆนี้หลังจากรูปแบบการศึกษามีเรื่องของการเรียนฟรีมีอาหารกลางวันฟรีมีนมเด็กฟรี เด็กรุ่นหลังก็ไม่สนใจในเรื่องทุนการศึกษาที่มีกรอบบังคับค่อนข้างสูงอย่างของมูลนิธิอีกทั้งหมดก็เพราะสิ่งที่ผมเคยพูดเอาไว้ว่าอะไรก็ช่าง ถ้ามันได้มาง่ายเขาจะไม่รู้จักเรื่องของคุณค่าเขาถือว่าเป็นความชอบธรรมที่ควรจะได้รับนั่นคือความจริง
เมื่อผู้คนขาดคุณธรรมในจิตใจเป็นหลักยึด โลกที่เราเห็นจึงกลายเป็นโลกที่ผู้คนแก่งแย่งชิงดีกัน เรื่องเลวทรามต่ำช้าขนาดไหนก็ทำกันได้หมดยาเสพติดแทรกซึมเข้าไปทุกหย่อมหญ้า ธุรกิจต่างๆก็มุ่งกันแต่ผลประโยชน์เป็นที่ตั้ง คอรัปชั่นเกิดขึ้นในทุกที่หน่วยงานทุกหน่วยงานไม่มีคำว่าไม่มีรอยด่าง การแก่งแย่งอำนาจทำให้ผู้คนขายได้แม้แต่ประเทศชาติ การโกงกินพัฒนากันจนเรียกว่าซึมซับเข้าไปในทุกระดับชั้น แม้แต่การจะเลือกใครเข้ามาเพื่อมาทำหน้าที่ปกครองดูแลทุกข์สุขของผู้คนก็ยังต้องใช้วิธีฉ้อฉลกันเข้ามาในทุกรูปแบบ สุดท้ายโลกทั้งโลกลุกเป็นไฟ ไฟสงครามเกิดขึ้นได้ทุกที่ก็ล้วนแล้วแต่มาจากเพียงแค่ผู้คนขาดซึ่งคุณธรรมนั่นเองคนเมื่อไม่มีคุณธรรมไม่มีจิตสำนึกเรื่องผิดก็บอกว่าเป็นเรื่องถูก เข้าไปปล้นชิงเขายังบอกว่าทำด้วยความชอบธรรมทุกวันนี้เข่นฆ่ากันจนโลกลุกเป็นไฟ อย่างนี้เองที่เขาเรียกว่าเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า ทั้งหมดนี้ ก็เริ่มด้วยคำว่าขาดคุณธรรมนั่นเอง ตอนนี้การโกงมันไม่ได้โกงกันแบบระหว่างคนต่อคนแต่มันโกงกันทั้งโลก โกงกันจนเป็นนโยบาย มันน่าขันไหมเล่ามนุษย์เอ๋ยแม้แต่เรื่องชั่วช้ายังทำกันเป็นระบบทีเรื่องดีๆกลับไม่เคยมีอยู่ในระบบเลย อนิจจามนุษย์ยุคนี้ ไม่ว่าบาปกรรมหรือนรกอเวจีไม่มีใครกลัวทั้งสิ้น จึงอย่าหวังว่าจะได้ยินคำว่ารู้จักพอ ถ้าต้นเหตุยังไม่ได้รับการแก้ไขก็อย่าหวังเลยว่าบนโลกนี้จะมีคำว่าสุขสงบนี่คือความจริง