พ่อค้าข้าราชการนักธุรกิจแรงงานทุกสาขาอาชีพรวมตัวจำนวนมากต้านสื่อเล่นแรง ในขณะเดียวกัน ไทยรัฐ ได้ออกหนังสือแถลงการณ์ชี้แจงและขออภัยในเรื่องการนำนำเสนอ

 คนพัทยาเดือดหลัง สื่อออนไลน์สังกัดหนึ่ง ลงโซเชียลตีตรา ”พัทยาเป็นเมืองบาป แดนสวรรค์แหล่งโสเภณี“ รวมพลเต็มเมืองผู้ว่าชลบุรีมาด้วย

     จากกรณีมีการนำเสนอข่าว “พัทยา เมืองบาปแดนสวรรค์โสเภณี” ที่มีผู้รับชมเป็นจำนวนมาก และพากันวิพากษ์วิจารณ์ถึงเมืองพัทยา เมืองท่องเที่ยวที่ทำรายได้อันดับต้นๆ ของประเทศในแง่ไม่ดี ทั้งที่ยังมีมุมมองอื่นๆ อีกมากมายที่น่าสนใจของแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกแห่งนี้นั้น

      นายมาโนช หนองใหญ่ รองนายกเมืองพัทยา ในฐานะคนพัทยาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ได้ออกแถลงการผ่านสื่อ ตนเองพร้อมด้วยคณะผู้บริหารเมืองพัทยา ตลอดจนพี่น้องประชาชนชาวพัทยา และผู้ที่อาศัยทำมาหาเลี้ยงชีพในเมืองพัทยานั้น รับไม่ได้จริงๆกับสี่อออนไลน์สังกัดหนึ่ง ที่โพสรูปภาพสถานบันเทิงยามค่ำคืนของเมืองพัทยา พร้อมข้อความที่ระบุว่า “พัทยาเมืองบาป แดนสวรรค์โสเภณี“ ซึ่งข้อความดังกล่าว ทำให้ส่งผลเสียภาพลักษณ์ในด้านลบกับเมืองพัทยาเป็นอย่างมาก จึงอยากให้ผู้เกี่ยวข้องสี่อออนไลน์ดังกล่าว ออกมารับผิดชอบและทบทวนในการนำเสนอข่าวนี้ด้วย 

ในส่วนของผู้ประกอบการธุรกิจกลางคืนของเมืองพัทยา ก็ไม่นิ่งเฉยหลังทราบข่าวดังกล่าว โดยนางสาวลิซ่า แฮมิลตัน นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจกลางคืน ได้ออกมาพูดถึงเรื่องดังกล่าวว่าทางด้านสมาชิกของสมาคมฯ และพี่น้องพลังมวลชนชาวพัทยา จะออกมารวมตัวกัน ติดแฮ็กแท็ก ให้สื่อโซเซียลดังกล่าว”หยุดการประนามย่ำยีเมืองพัทยา“พร้อมทั้งให้ออกมารับผิดชอบ กับความเสียหายที่เกิดขึ้น เนี่องจากการทำสกู๊ปข่าวดังกล่าว ทางสื่อโซเชียลนั้น ได้ลงพื้นที่มายังเมืองพัทยา แล้วใช้แหล่งข่าวที่เป็นสาวสอง อาศัยอยู่แถวชายหาดมานำเสนอพรีเซ้นข้อมูลข่าวสาร ซึ่งคาดว่าอาจเป็นเรื่องราวทื่ถูกจัดตกเเต่งขึ้น 

มีรายงานความเคลื่อนไหวผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กให้มีการรณรงค์ติดแฮ็ชแท็ก #savepattaya โดยทางด้านเฟซบุ๊กแฟนเพจ สายตรงนายกเมืองพัทยา ได้โพสต์ระบุว่า “พัทยามีมากกว่าที่คุณคิด” ร่วมกัน #SAVEPATTAYA ใครมีร้าน โรงแรม สถานที่ท่องเที่ยว หรือกำลังทำธุรกิจอะไร มาร่วมกันแชร์สิ่งดีๆ ให้โลกรู้ !! เพราะพัทยามีมากกว่าที่คุณคิด #เที่ยวพัทยามาได้ทุกวัน ซึ่งพบว่ามีชาวโซเชียลที่อาศัยและทำมาหากินอยู่ในเมืองพัทยาต่างพากันกดไลก์สนับสนุนแคมเปญรณรงค์ดังกล่าวเพื่อเป็นกำลังใจให้กัน พร้อมที่จะรับความจริง และก้าวผ่านความจริงไปด้วยกัน ดังที่คนพัทยาได้ผ่านมาแล้วมากมายหลายวิกฤตการณ์ 

ในที่สุดผู้ประกอบการพัทยาก็รวมพลังกันปกป้องศักดิ์ศรีเมืองพัทยา หลังสื่อฟาดแรง พัทยาเมืองบาป แดนสวรรค์โสเภณี ขอความเห็นใจสื่อเสนอมุมดีๆบ้าง

เมื่อช่วงค่ำวันที่ 11 กรกฎาคม 2567 ที่บริเวณปากทางเข้าโครงการถนนคนเดินพัทยาใต้ หรือโครงการวอล์กกิ้งสตรีทพัทยา กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจในเมืองพัทยานัดหมายรวมตัวแสดงเจตนารมย์ปกป้องชื่อเสียงและศักดิ์ศรีเมืองพัทยา หลังมีสื่อนำเสนอประเด็นข่าว “พัทยาเมืองบาป แดนสวรรค์โสเภณี” จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก 

ทั้งนี้มีตัวแทนผู้ประกอบการ ประกอบด้วย นางลิซ่า แฮมิลตัน นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจกลางคืนเมืองพัทยา นายบุญอนันต์ พัฒนสิน นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา นางอำพร แก้วแสง นายกสมาคมอุตสาหกรรมบันเทิงและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา นายดีโอ้ ซิงห์ นายกสมาคมอินเดียชลบุรี นายสุขราช กาลรา ประธานชุมชนวอล์กกิ้งสตรีทได้ขึ้นกล่าวแสดงมุมมอง

นางลิซ่า แฮมิลตัน นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจกลางคืนเมืองพัทยา กล่าวว่า พัทยาไม่ได้มีการท่องเที่ยวด้านสถานบันเทิงเพียงอย่างเดียว ยังมีความหลากหลายมากมายตอบโจทย์นักท่องเที่ยวทั่วโลก การนำเสนอข่าวว่าพัทยาเป็นเมืองบาป ทำให้อาชีพอื่นๆ มีความน้อยเนื้อต่ำใจ ไม่อยากให้เหยียดกันด้วยมุมมองแบบนี้ อยากเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบที่นำเสนอข่าวทำร้ายเมืองพัทยา 

ด้าน นางอำพร แก้วแสง นายกสมาคมอุตสาหกรรมบันเทิงและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา กล่าวด้วยว่า เมืองพัทยาเป็นเมืองเศรษฐกิจที่มีผู้คนจำนวนมากมาหางานทำ ได้มีงานมีอาชีพ มีเงินส่งให้ที่บ้านและเลี้ยงดูครอบครัว ไม่อยากให้ดูถูกอาชีพอื่นที่ทำรายได้ด้านการท่องเที่ยว ผู้หญิงกลางคืนสร้างรายได้ให้ประเทศอย่างมหาศาล

ขณะที่ นายบุญอนันต์ พัฒนสิน นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา กล่าวเสริมว่า อยากให้สื่อช่วยนำเสนอมุมมองในเชิงข่าวสารที่มีความสร้างสรรค์ ให้เมืองพัทยาเป็นเมืองแห่งโอกาส ผู้คนมาตามงานอย่างถูกกฎหมายทำตามกติกาของสังคมสร้างรายได้เข้าประเทศ อยากขอความเห็นใจว่าเรื่องดังกล่าวเมืองพัทยามี เมืองท่องเที่ยวอื่นก็มี อนึงการรวมตัวครั้งนี้ได้เขียนป้ายโจมตีสื่อและคนทำข่าวอย่างดุเดือด