สกลนคร สภาวะราคาก๊าซผันผวนขึ้นลง ผู้ประกอบการใช้ช่องโหว่ฉวยโอกาสซ้ำเติมประชาชนด้วยการโกงน้ำหนักจนท.ตรวจจับ ดำคดีแล้วหลังมีการร้องเรียนตรวจสอบทันทีพบทำผิดจับ มีโทษหนักทั้งจำและปรับ ถึงขั้นปิดร้าน

สกลนคร สั่งปิดร้านขายก๊าซหุงต้มตรวจพบน้ำหนักหายเฉลี่ย 2 ก.ก.

เวลา 13.00 น.วันที่ 31 ก.ค.67 น.ส.อรวรรณ ทิพม่อม นักวิชาการพาณิชย์ จ.สกลนคร นายธวัฒชัย ตูมน้อย หัวหน้าชั่งตวงวัด จ.สกลนคร นายศักดิ์ชัย จงจำ วิศวกรพลังงาน จ.สกลนคร พร้อมด้วย จนท.เข้าตรวจสอบร้านจำหน่ายขายปลีกก๊าซหุงต้มแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครสกลนคร หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าที่ร้านจำหน่ายขายปลีกก๊าซหุงต้มแห่งนี้ เมื่อนำไปใช้ในครัวเรือนและสถานประกอบการแล้ว ก๊าซหมดไวกว่าปกติสงสัยว่าน้ำหนักที่ได้จะไม่เต็มปริมาณของถังก๊าซที่กำหนด 

เมื่อ จนท.เดินทางไปถึงพบว่ากำลังเปิดให้บริการ จึงแสดงตนต่อพนักงานของร้าน อาศัยอำนาจหน้าที่ของนายตรวจชั่งตวงวัด ขอตรวจสอบตามที่มีการร้องเรียน ขั้นตอนแรก จนท.ได้ทำการตรวจสอบความถูกต้องของเครื่องตรวจสอบโดยมีการบันทึกภาพทุกขั้นตอนไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นจึงนำถังก๊าซหุงต้มขนาดต่างๆภายในร้านที่ให้บริการซึ่งยังปิดผนึกฝาถังอยู่ ชั่งสุ่มตรวจปริมาณก๊าซหุงต้ม ปรากฎว่าจากการตรวจสอบถังก๊าซขนาด 15 ก.ก.น้ำหนักหายไปฉลี่ย 1.8 – 2.5 ก.ก.

ปกติแล้วบวกลบได้ไม่เกิน 1.5-3 ขีด หรือรวมน้ำหนักถังกับก๊าซจะต้องไม่ต่ำกว่า 31.1 ก.ก.และกรณีนี้ถือว่ามีความผิดทางกฎหมาย จนท.จึงทำการบันทึกหลักฐาน คุมตัวพนักงานของร้านไปพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสกลนคร และแจ้งต่อเจ้าของกิจการเพื่อไปรับทราบข้อกล่าวหาด้วย และสั่งปิดสถานประกอบการที่ไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากครั้งนี้ถือเป็นการกระทำผิดครั้งที่ 2  ซึ่งจะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายถึงที่สุด ส่วนการขยายผลจะทำการตรวจสอบว่าก๊าซดังกล่าวนี้ไปรับบรรจุมาจากที่ใดก็จะไปตรวจสอบในส่วนนี้ด้วย

นายธวัฒชัย ตูมน้อย หัวหน้าชั่งตวงวัด จ.สกลนคร กล่าวว่า ในระยะนี้ซึ่งสภาวะราคาก๊าซผันผวนขึ้นลง จึงทำให้ผู้ประกอบการใช้ช่องโหว่นี้ฉวยโอกาส ถือเป็นการซ้ำเติมประชาชน จึงอยากฝากเตือนว่า จนท.เองนั้นไม่ได้นิ่งนอนใจหากตรวจสอบหรือมีการร้องเรียนก็จะเข้าตรวจสอบทันทีเมื่อพบการกระทำผิดก็ไม่ละเว้น มีโทษหนักทั้งจำและปรับ ถึงขั้นปิดร้านด้วย