สกลนคร กมธ.ที่ดินฯ สภาผู้แทนราษฎร ศึกษาการใช้ประโยชน์ในหนองหาร
คณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ลงพื้นที่ศึกษาดูงานเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาการใช้ประโยชน์ที่ดิน และทรัพยากรน้ำ บริเวณทะเลสาบหนองหาร จ.สกลนคร
วันที่ 23 สิงหาคม 2567 ที่ห้องประชุมเทศบาลนครสกลนคร นายชัยมงคล ไชยรบ รองประธานคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร และคณะ ลงพื้นที่ศึกษาดูงานเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาการใช้ประโยชน์ที่ดิน และทรัพยากรน้ำบริเวณทะเลสาบหนองหาร จังหวัดสกลนคร จากกรณีมีผู้ร้องเรียนเกี่ยวกับผลกระทบเรื่องสิทธิที่ดินทำกิน และที่อยู่อาศัยจากการประกาศเขตกฤษฎีกา พ.ศ.2484 และที่ราชพัสดุ ทำให้ประชาชนเสียสิทธิในที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก ,การบังคับใช้กฎหมายของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเขตที่ราชพัสดุไม่มีความชัดเจน , การดำเนินการระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียของ อปท.ก่อนปล่อยลงสู่หนองหารยังมีไม่เพียงพอ ทำให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศน์หนองหาร และการพัฒนาหนองหารเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวสร้างรายได้ โดยมีนายวีระ ฤกษ์วาณิชกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนภาคประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เข้าร่วมประชุม
นายชัยมงคล ไชยรบ รองประธานคณะกรรมาธิการการที่ดินฯ กล่าวว่า วันนี้เป็นการลงพื้นที่ศึกษาดูงานในเรื่องหนองหาร ซึ่งมีประชาชนร้องไปที่กรรมธิการฯ ในหลายประเด็น อาทิเช่น เรื่องของที่ดิน เรื่องของสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะน้ำเสีย เรื่องการพัฒนาหนองหารเพื่อก่อให้เกิดรายได้กับพี่น้องประชาชน จึงได้เชิญหน่วยงานส่วนราชการ และองค์กรภาคประชาชนเข้ามาให้ข้อมูล เพื่อนำไปสู่การสรุปในระดับคณะกรรมาธิการ และจะนำข้อมูลการลงพื้นที่ในครั้งนี้ เสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาต่อไป ในส่วนของปัญหาเรื่องการครอบครองที่ดิน ระหว่างรัฐกับประชาชน พบว่าข้อกฎหมายบางอย่างยังไม่ชัดเจนจึงอาจก่อให้เกิดความสับสนในหมู่ประชาชน ต่อมาคือเรื่องสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะเรื่องน้ำเสีย ซึ่งหนองหารเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ที่ประชาชนใช้ในการอุปโภค บริโภค และใช้ผลิตน้ำประปา จึงมีความจำเป็นในการบำบัดน้ำเสีย และการปรับปรุงสิ่งแวดล้อมของหนองหาร รวมถึงการศึกษาระเบียบ และข้อกฎหมาย เพื่อให้การท่องเที่ยวของหนองหารได้มีการพัฒนามากยิ่งขึ้น ทั้งนี้มีการพูดคุยเกี่ยวกับการสร้าง หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์ใหญ่สายวิปัสสนากรรมฐานขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจา โดยไม่ใช้เงินจากทางราชการ คาดว่าจะสามารถสรเางได้ในปี พ.ศ.2568 ซึ่งจะทำให้การท่องเที่ยวฟื้นตัวทัดเทียมกับจังหวัดอื่นได้