สกลนคร ผวาประวัติศาสตร์ซ้ำรอย 2560 น้ำหนองหารล้นความจุผู้ว่าฯประชุมรับมือด่วน
สกลนคร ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ประชุมเตรียมรับมือสถานการณ์น้ำ ที่เข้าขั้นวิกฤติแล้ว ถนนหลายสายจมอยู่ใต้น้ำ รอการระบายขณะที่ทะเลสาบหนองหารน้ำเต็มความจุจนล้นสปีลเวย์ จึงต้องเร่งพร่องน้ำอย่างเต็มที่ ล่าสุดน้ำระบายลดลงแล้ว
วันที่ 19 กันยายน 2566 นางจุรีรัตน์ เทพอาสน์ ผวจ.สกลนคร เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับมือกับสถานการณ์น้ำที่กำลังมีปริมาณสูงขึ้นทุกที ซึ่งในที่ตกลงมาต่อเนื่องติดต่อกันหลายวันทำให้แหล่งน้ำหลายแห่ง ลำน้ำหลายสายที่รองรับน้ำฝนจากเทือกเขาภูพาน ได้เพิ่มปริมาณก่อนที่จะไหลลงไปรวมกันยังจุดเดียวคือที่ทะเลสาบหนองหาร ซึ่งมีความจุระดับกักเก็บ 157.000 ม.รทก. แต่ขณะนี้หนองหารมีความจุที่ 157.100 ม.รทก.ทำให้ระดับน้ำล้นสปีลวสเวย์ ประมาณ 10 ซม. เพื่อความปลอดภัยจึงต้องระบายน้ำออก แต่น้ำที่ระบายออกจากตัวเมืองได้ช้า น้ำจึงเอ่อขึ้นท่วมถนนหลายสาย
โดยเฉพาะถนนรัฐพัฒนา ถนนรอบเมือง ถนนเสรีไทย ถนนยุวพัฒนา ตลาดสด ถนนประชาอุทิศ ซึ่งเป็นถนนสายเศรษฐกิจ ระดับน้ำเกือบสูงเท่าปี 2560 ซึ่งครั้งนั้นน้ำท่วมใหญ่ ในรอบ 50 ปี การระบายน้ำดังกล่าวส่งผลกระทบต่อชุมชนรอบหนองหารที่อยู่ใต้ลงไป เช่น อ.เมืองบางส่วน อ.โพนนาแก้วบางส่วน และ อ.โคกศรีสุพรรณ นาข้าวจมน้ำแล้ว คาดว่ากว่า 1 หมื่นไร่ ซึ่งในช่วงนี้ถ้าน้ำไม่ลดก็จะได้รับความเสียหาย จึงต้องนำเครื่องผลักดันน้ำไปติดตั้งที่ต.ด่านม่วงคำ อ.โคกศรีสุพรรณ เชื่อว่าจะสามารถระบายน้ำลงสู่ประตูน้ำก่ำเพื่อไหลลงสู่ลำน้ำโขงได้มากขึ้น และให้เขื่อนนัำพุงงดปล่อยน้ำที่จะไหลลงสู่หนองหารเป็นระยะเวลา 7 วัน ปริมาณน้ำในหนองหารก็จะลดลง
นางจุรีรัตน์ เทพอาสน์ ผวจ.สกลนคร กล่าวว่า จากการที่มีฝนตกลงมาทำให้ตัวเมืองสกลนคร และพื้นที่รอบนอกอีก 7 อำเภอได้รับผลกระทบเสียหาย คาดว่า 13,000 ไร่ ทำให้ประชาชนตกใจเกรงว่าจะเป็นเช่นปี 2560 ซึ่งพื้นที่ใดที่จะขอใช้เครื่องสูบน้ำจากศูนย์ ปภ.เขต 7 ที่มีเครื่องสูบน้ำแรงดันสูงที่มีศักยภาพก็ขอให้แจ้งเข้ามา และขอยืนยันว่าจากการที่ได้ระดมสรรพกำลังทุกภาคส่วน เราสามารถเอาอยู่และจะไม่เป็นอย่างปี 2560 อย่างแน่นอน เพราะขณะนี้ น้ำเริ่มลดระดับลงแล้วจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติ เช่นเดียวกับ นายโกมุท ทีฆธนานนท์ นายกเทศมนตรีนครสกลนคร ก็ยืนยันว่าน้ำรอการระบายและลดไปแล้ว จะไม่มีเหมือนปี 2560 อย่างแน่นอน