“บิ๊กต่าย”สั่งเอาจริงปิดล้อมไล่ล่ากลางทะเล แรงงานเขมรกว่า 80 รายจากชายแดนจันทบุรีเตรียมขึ้นบก ทำงานขนถ่ายสินค้าในไทย(มีคลิป)

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจน้ำ (บก.รน.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.วสุ บัวจีน สว.ส.รน.2 กก.5 บก.รน. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.๕ บก.รน.ร่วมกันจับกุม แรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาจำนวน 72 คน ในความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”

สถานที่จับกุม บริเวณทะเลหน้าเกาะสีชัง อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี  ตามที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. มอบนโยบายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปราบปรามการกระทำผิดของแรงงานต่างด้าว ต่อมา พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัด บช.ก. ดำเนินการตามนโยบายของ ผบ.ตร.

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.๕ บก.รน. ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ภ.จว.ชลบุรี, สภ.เกาะสีชัง, ฝ่ายปกครอง, สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จ.ชลบุรี, เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสวัสดิการคุ้มครองแรงงาน จ.ชลบุรี, สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ชลบุรี เข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายบริเวณทะเลหน้าเกาะสีชัง อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี โดยนำเรือตรวจการณ์ 634 ออกตรวจระดมปราบปรามอาชญากรรมในเขตพื้นที่รับผิดชอบ จนกระทั่งพบเห็นเรือรุ่งเรืองทรัพย์ ซึ่งบรรทุกคนโดยสารลักษณะคล้ายกับบุคคลต่างด้าวอยู่ภายในเรือจำนวนมาก 

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำเรือเข้าเทียบเพื่อทำการตรวจสอบ โดยมีนายประมาณฯ อายุ 66 ปี แสดงตัวเป็นผู้ควบคุมเรือ ผลการตรวจสอบพบบุคคลต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ไม่มีหนังสือเดินทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวมาเพื่อเข้ากระบวนการคัดเเยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ซึ่งจากการซักถามไม่เป็นผู้เสียหาย จากนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการจับกุม และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบคนต่างด้าว พบต่างด้าวรวมจำนวนทั้งสิ้น 72 ราย โดยเเบ่งเป็นผู้ถูกจับกุม 52 ราย และผู้ติดตาม 20 ราย ซึ่งทั้งหมดให้การว่าได้เดินทางเข้ามาทางด่านบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี จากนั้นได้ขึ้นเรือที่ท่าเรือจรินทร์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เพื่อไปลักลอบทำงานขนถ่ายสินค้าบนเรือ บริเวณหน้าเกาะสีชัง อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี  

เครดิตภาพ/ข่าวสมาคมผู้สื่อข่าว-ช่างภาพฯชลบุรี

ซึ่งภายหลังจากการจับกุมดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสืบสวนเพื่อหากลุ่มนายจ้างและะผู้ร่วมขบวนการในการลักลอบนำบุคคลต่างด้าวเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป