“ธนดล” ลุยตรวจอาณาจักรสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง รุกที่ ส.ป.ก. เผยปลายปีเตรียมยึดที่ดินคืน จากบุคคลระดับประเทศ 

เมื่อเวลา 11.00 น. ( 22 พ.ย.67 ) นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ประธานคณะทำงานขับเคลื่อนการตรวจสอบและพิจารณาความผิดเกี่ยวกับผู้ได้รับการจัดสรรที่ดินและผู้ถือครองที่ดินโดยมิชอบในเขตปฏิรูป พร้อมด้วย ตำรวจกองบังคับการป้องกัน ปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการ

กระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) จนท.สนง.สปก.ชลบุรี และ คณะทำงานและติดตามตรวจสอบข้อเท็จจริง ส.ป.ก. ลงพื้นที่ตรวจสอบ บริเวณ สถานที่ท่องเที่ยวเอกชนแห่งหนึ่ง ( สวนไทย พัทยา ) ริมถนนทางหลวงหมายเลข 331 ( สัตหีบ – พนมสารคาม ) กม.22 หมู่ 6 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังได้รับการร้องเรียนว่า มีการใช้ที่ดิน และ การครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.โดยมิชอบ  อีกทั้งยังมีข้าราชการระดับสูงอยู่เบื้องหลัง 

เมื่อไปถึงพื้นที่ดังกล่าว พบว่า เป็นอาณาจักรสถานที่ท่องเที่ยว เชิงเกษตรกรรม และ เชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ มีสิ่งปลูกสร้าง อาคารใหญ่โต หลายอาคาร มีกิจกรรมนั่งช้างชมธรรมชาติ นั่งรถม้า ชมแหล่งเพาะพันธุ์พืชผลทางการเกษตร อาทิ เงาะ มังคุด ทุเรียน และยังมี อาคารห้องอาหารกลางสระบัวขนาดใหญ่ในเนื้อที่กว่า 100 ไร่ ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน 

ต่อมา ได้มี นายชัย ซึ่งได้มาแสดงตัว ว่าตนเองเป็นหุ้นส่วนกิจการดังกล่าว พร้อมทั้งหอบเอกสารออกมายืนยัน โดยระบุว่า ได้มาร่วมลงทุนก่อสร้างและเปิดเป็นแหล่งการท่องเที่ยว ในที่ดินผืนนี้ ตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งที่ดินเป็นการถือครอบครองกรรมสิทธิ์แบบ ส.ค.1  มีจำนวน 150 ไร่ โดยแบ่งเป็น 2 แปลง โดยเลขที่ 560 มี 50 ไร่ และ 585 มี 100 ไร่ แต่มีการใช้ที่ดินในการสร้างเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปทั้ง สิ้น 80 ไร่ 

ซึ่งจากการตรวจสอบ ของเจ้าหน้าที่ พบว่า ที่ดินดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ของ ส.ป.ก. แต่ทางประกอบการกับนำเอกสาร กฤษฎีกา ส.ค.1 มากล่าวอ้าง และ จากการสำรวจยังพบว่ามีความย้อนแยงหลายอย่าง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อให้มีความชัดเจนและกระจ่างขึ้น ทางกรมที่ดินต้องเป็นผู้มาสำรวจ และสรุปว่าที่ดินผืนดังกล่าวเป็นการนำใช้ผิดระเบียบหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่มีการ แจ้งกับทางผู้ประกอบการให้นำเอกสาร  ไปชี้แจง ภายใน 30 วัน 

ขณะเดียวกัน พบว่าที่ดิน ส.ป.ก. ในพื้นที่ดังกล่าว หรือในเขตอำเภอบางละมุง  กว่า 15,000 ไร่ กำลังถูกเวนคืน เพื่อสร้างเป็น เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยแบ่งการชำระเงินออกเป็น 3 ระยะ ซึ่งมีการ ค่าชดเชย ไปแล้วกว่า 5,000 ไร่ ซึ่งที่ดิน ที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบในขณะนี้พบว่าอยู่ในช่วงของ พิจารณาชำระค่าชดเชยในระยะที่ 2

นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ประธานคณะทำงานขับเคลื่อนการตรวจสอบและพิจารณาความผิดเกี่ยวกับผู้ได้รับการจัดสรรที่ดินและผู้ถือครองที่ดินโดยมิชอบในเขตปฏิรูป เปิดเผยว่า ในเบื้องต้น ผู้จัดการ ได้มีการนำเอกสาร กฤษฎีกา ( ส.ค.1 ) ฉบับ พ.ศ.2490  มาแสดง โดยไม่ยอมไปออกโฉนดเป็นดิน ส.ป.ก.  แต่จากการตรวจสอบพบว่า ที่ดินดังกล่าวมีการไปออกโฉนด เป็นที่ดิน ส.ป.ก.4-01  จำนวน 4 แปลง แล้วก็มาขอสละสิทธิ์ในเมื่อปี 2561 แต่ปัจจุบันนี้มีทายาทของทั้ง 4 แปลงนี้มาขอรับมรดก ฉะนั้นเท่ากับว่ายอมรับว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ดิน ของ ส.ป.ก.  และนี่คือเหตุผลที่ทำให้เราต้องลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ นอกจากนี้ที่ดินดังกล่าวในเชิงลึกพบว่ามี ข้าราชการระดับสูง ร่วมครอบครอง ที่ดินผืนนี้ด้วย แต่อย่างไรก็ตาม  ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดชลบุรี ทำหนังสือถึงกับผู้ที่ทำการจัดสรรที่ดิน ให้เขามาชี้แจงภายใน 30 วัน โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพราะทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน

นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ กล่าวปิดท้ายว่าตนเองได้ ประกาศสงคราม ผู้มีที่ดินที่ได้รับการจัดสรร แล้วไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ขอให้นำมาคืนกับสำนักที่ดินแต่ละจังหวัด จำนวน 72 จังหวัด แต่ถ้าไม่มา แล้วจะลงพื้นที่ไป ก็จะไปดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะทำการอายัดทรัพย์ด้วย อีกทั้งในเร็วๆนี้ การยึดทรัพย์สินของ ผู้ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศก็ขอให้อดทนรอ คงไม่เกินเดือนหน้าอย่างแน่นอน……